วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

อัจฉริยะ เรียนสนุก


อัจฉริยะ เรียนสนุก
วนิษา เรซ
พิมพ์ครั้งที่ ๒
บริษัท อัจฉริยะเรียนสนุก จำกัด
๒๒๑ หน้า ภาพประกอบ
๑๙๖ บาท

โลกปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในด้านการเรียน การทำงาน หรือแม้กระทั่งการมีชีวิตรอดอยู่ในสังคม และการที่เราจะสามารถเอาตัวรอดได้นั้นพื้นฐานที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือ การศึกษา ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าการศึกษาในปัจจุบันนี้มีอัตราการแข่งขันสูงมากจนน่าตกใจ เด็กบางคนเรียนหนังสืออาทิตย์ละ7วัน ซึ่งทำให้เด็กไทยหลายๆคนเป็นโรคเครียดบางคนถึงขั้นคิดสั้นเพียงเพราะการเรียนไม่เป็นไปอย่างที่ตนคาดการณ์ไว้


เมื่อประมาณหนึ่งสองเดือนก่อนคุณแม่ฉันได้นำหนังสือเล่มหนึ่งมาให้เป็นหนังสือที่มีเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีการเรียนซึ่งจะไม่ทำให้เราเป็นโรคเครียด เรียนสนุกและยังสามารถคว้าเกรดเอมาได้โดยง่าย ซึ่งในตอนแรกดิฉันเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือสักเท่าไรและก็ค่อนข้างจะเชื่อว่าตัวเองไม่ว่าจะเรียนอย่างไรก็คงไม่สามรถทำให้เกรดเฉลี่ยดีขึ้นมากกว่านี้ได้แต่เมื่อพอลองได้อ่านดูสักครั้งความคิดของฉันก็เปลี่ยนไปและเหมือนมีพลังบางอย่างที่ทำให้ฉันกลับมาคิดทบทวนการเรียนที่ผ่านมาของฉันอย่างจริงจัง

หนังสือเล่มนี้เขียนโดย “วนิษา เรซ” หรือ หนูดีที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อของผู้หญิงคนนี้กันมาบ้างแล้ว หนูดีเป็นผู้แต่งหนังสือ “อัจฉริยะสร้างได้” และผู้ที่ชนะล้านที่15รายการอัจฉริยะข้ามคืน เธอจบปริญญาโทด้สนสมองและการเรียนรู้การมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการของสมองของคนเราเป็นอย่างดี

ในหนังสือเรื่อง “อัจฉริยะ สร้างได้” ได้รวบรวมประสบการณ์การเรียนหนังสือของหนูดีที่ได้ประสบมาเมื่อตอนที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หนูดีเป็นคนที่สามารถคิดหาวิธีการวางรูปแบบการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้จักการวางแผนให้กับตารางชีวิตของตัวเอง และยังมีวิธีที่จะทำให้ชั่วโมงเรียนทุกครั้งกลายเป็นเรื่องที่น่าสนุกแม้ว่าวิชานั้นจะเป็นวิชาที่ไม่ถนัดและแสนน่าเบื่อ แต่หนูดีก็มีวิธีที่จะเปลี่ยนวิชานั้นให้กลายเป็นเรื่องที่สนุกพร้อมทั้งคว้าเกรดเอมาได้โดยง่าย ซึ่งวิธีแบบนี้หนูดีก็ได้บอกว่าทำให้เธอมีความสุขกับการเรียนแบบง่ายๆและได้ใช้ชีวิตครบแบบที่เรียนว่า “กลมรอบ” อีกทั้งยังได้ทำประโยชน์กับสังคมอีกด้วย

เริ่มด้วยเรื่องเล่าจากหนูดีที่เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆพร้อมทั้งวิธีการพัฒนาทักษะด้านต่างๆของสมองของเราก่อนที่จะเตรียมพร้อมเป็นนักเรียนมืออาชีพ รวมถึงวิธีการจัดระบบการเรียนที่หนูดีเคยใช้มาแล้วทั้งสิ้น44วิธีด้วยกัน ซึ่งแต่ละวิธีเป็นวิธีที่สามารถทำได้โดยง่ายเพียงแค่เราต้องทำความเข้าใจในระบบการศึกษาของสถาบันที่เรากำลังศึกษาอยู่ เมื่ออ่านแล้วเราก็นำวิธีต่างๆมาปรับเข้ากับวิถีชีวิตของตนเอง

ขั้นตอนแรกจะเป็นการเตรียมพร้อมแบบนักเรียนมืออาชีพ คือการให้ตั้งเป้าหมายในการเรียนของเทอมนั้นๆวางแผนจักการกับวิธีการเรียนตลอดเทอมเพื่อที่เราจะได้รู้ว่าช่วงไหนที่เราต้องเรียนหนักหรือช่วงไหนที่เราเรียนน้อยซึ่งทำให้เราสามารถวางแผนกิจกรรมต่างๆที่เราจะทำตลอดทั้งเทอม อีกทั้งเราควรที่จะทำความเข้าใจในรายวิชาที่เราจะต้องเรียนว่าวิชานั้นๆเกี่ยวกับอะไรครอบคลุมเนื้อหาส่วนไหนบ้าง รวมถึงวิธีการที่จะช่วยให้เราเรียนได้อย่างทีประสิทธิภาพมากขึ้น

ต่อมาจะเป็นการจัดการกับวิธีการเรียนในห้องเรียน เป็นการแนะนำวิธีการเรียนที่หนูดีใช้เมื่อสมัยตอนที่ยังเรียนอยู่ เช่น การจดเลคเชอร์อย่างไรให้น่าอ่านและช่วยให้เราเข้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลดีเป็นอย่างมาก เพราะช่วยในเรื่องความจำอีกทั้งรวมวิธีจะทำให้การเรียนของเราเป็นเรื่องที่น่าสนุก
จากที่เราจัดการกับแบบการเรียนที่เราวางแผนมาตลอดทั้งเทอมก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเตรียมตัวสอบ เมื่อถึงเวลาสอบนั้นหลายคนก็จะเครียดกับการสอบของตัวเองเอาแต่อ่านหนังสือแบบไม่ลืมหูลืมตา ท่องไปเรื่อยเหมือนเครื่องจักร แต่วิธีการเหล่านั้นนอกจากจะไม่ได้ผลแล้วยังเป็นการทำร้ายตัวเองทางอ้อมอีกด้วย หนูดีจึงมีวิธีการเตรียมตัวสอบที่น่าใจที่นอกจากจะเป็นวิธีที่สนุกสนานและยังทำให้เราจำข้อมูลต่างๆได้แม่นยำขึ้น ซึ่งการจำข้อมูลของหนูดีอาจจะแตกต่างจากการท่องจำของเราแต่เชื่อว่าถ้าใครได้ลองปฏิบัติตามก็จะเป็นผลดีไม่น้อย

สุดท้ายหลังจากที่เราเรียนและเตรียมตัวสอบมานานก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเดินเข้าห้องสอบ ซึ่งหลายคนมักจะเครียดก่อนที่จะเข้าห้องสอบจนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเตรียมมาตลอดทั้งเทอมหลายไปในพริบตา แต่วิธีของหนูดีเป็นวิธีแบบสบายๆ นั่นคือการเตรียมตัวอย่างไรก่อนที่เราจะเดินเข้าห้องสอบ เราต้องรู้จักเตรียมตัว วางแผน และที่สำคัญที่สุดคือการทำสมาธิเพื่อให้จิตใจผ่อนคลาย เพราะการที่เรามีสมาธิทุกอย่างก็จะตามมา

หนังสือเล่มนี้ได้กลายเป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันเป็นอย่างมาก เพราะฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่เรียนหนังสือไม่เก่งซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะฉันไม่เคยจัดการกับระบบการเรียนของฉันเอง ไม่เคยที่จะลองพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้เกรดเอและเคยเครียดกับการสอบในทุกๆครั้งๆ แต่เมื่อพอได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้จึงทำให้ฉันได้เห็นข้อบกพร่องในระบบการเรียนของตัวเองว่าเราได้มองข้ามจุดสำคัญไปหลายอย่างซึ่งถ้าหากเราลองคิดที่จะจัดการระบบการเรียนของตัวเองดูสักครั้งบางทีเราอาจจะกลายเป็นอัจฉริยะที่ควบคู่ไปกับการมีสุขภาพจิตดีอย่างที่หนูดีเป็นก็ได้

ถ้าใครลองได้อ่านหนังสือ “อัจฉริยะ เรียนสนุก” ของ วนิษา เรซ หรือหนูดี อาจจะทำให้คุณได้เห็นมุมมองใหม่ๆในการเรียน และรู้จักจัดการเกี่ยวกับระบบการเรียนของตัวเองให้มีประสิทธิภาพ และสนุกกับชีวิตการเรียนมากขึ้น


แพน

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เลือกหนังสือมาแนะนำได้เหมาะสม น่าสนใจ ย่อหน้าเกริ่นนำเขียนได้ดี ย่อหน้า 2 ตัดออกจะดีกว่า จบท้ายดี


8.5