วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

เสียดาย…คนตายไม่ได้อ่าน


เสียดาย…คนตายไม่ได้อ่าน
ดังตฤณ
พิมพ์ครั้งที่ ๔๕ /๒๕๕๐
สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี
๓๖๐ หน้า
๒๓๕ บาท


เสียดาย…คนตายไม่ได้อ่าน ชื่อหนังสือที่กระทบหัวใจคนเป็น ให้สะดุดตั้งแต่ความหมายของชื่อที่พิมพ์ด้วยตัวอักษรสีขาวบนปกสีม่วงบรรยากาศวัดเข้าถึงอารมณ์ของความนิ่งสงบ จุดประกายความใคร่รู้ของผู้พบเห็นเลือกหยิบขึ้นมาอ่านได้ไม่ยาก รับประกันคุณภาพด้วยยอดขาย เพียงช่วงเวลาไม่นานหนังสือเล่มนี้ก็กลายเป็นหนังสือติดอันดับขายดีต้องตีพิมพ์ซ้ำถึงสี่สิบห้าครั้ง นอกจากรูปลักษณ์ที่มองผ่านภายนอกแล้ว ด้วยคุณภาพเขียนของคุณดังตฤณ นักเขียนคุณภาพ ผู้เปลี่ยนเรื่องธรรมะแสนยาก กลายเป็นธรรมะแสนง่ายด้วยการนำเสนอธรรมะแนวใหม่ ผสมลีลาการเขียนเฉพาะตัว เข้าใจง่าย บางครั้งผ่านตัวละคร บางครั้งผ่านการอธิบายเปรียบเทียบ วิธีการเขียนที่ไม่เหมือนใครทำให้ทุกเพศ ทุกวัยสามารถเข้าถึงธรรมะได้อย่างไม่ยากเย็น

ผลงานเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือธรรมะที่แต่งออกมาเพื่อตอบสนองความรู้เฉพาะคนสูงวัยหรือผู้สนใจศึกษาธรรมะเท่านั้น แต่หนังสือเล่มนี้ตอบสนองความไม่รู้ของคนทั่วไปให้ได้คำตอบกระจ่างใจ ใครหลายคนเกิดคำถามในชีวิตว่า เหตุใดจึงมีฉัน เหตุใดฉันจึงมีทุกข์ ปัญหาที่ค้างคาใจ รวมถึงความเชื่อทางศาสนา เหตุของการเกิด โลกหลังความตาย เรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ ที่ใครต่างใคร่รู้ว่ามีจริงหรือไม่

คำถามบางเรื่องอาจตอบได้จากการพิสูจน์ในปัจจุบันกาล แต่บางเรื่องอย่างโลกหลังความตาย ใครเป็นผู้ให้คำตอบได้ชัดเจนที่สุด นอกจากคนที่ตายเสียก่อน แต่คนที่ตายแล้วจะตื่นมาพิสูจน์ให้คนเป็นรู้ได้อย่างไร ท่านเชื่อหรือไม่ว่าปัญหาเหล่านี้มีผู้ให้คำตอบอย่างลึกซึ้งแล้วนั่นก็คือ พระพุทธเจ้า หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดคำอธิบายเรื่องกรรมวิบาก และภพภูมิต่างๆในพระไตรปิฎก แต่กระนั้นจะมีคนทั่วไปสักกี่คนบนโลกนี้ที่อ่านพระไตรปิฎกได้อย่างลึกซึ้งถึงแก่น คุณดังตฤณจึงนำคำตอบเหล่านั้นมาอธิบายในแบบฉบับที่คนประเภทอยากจะอ่านคร่าวๆ ยังต้องเปลี่ยนใจพลิกหน้าแรกอ่านอย่างละเอียด พลิกหน้าแล้วหน้าเล่าต่อไป เรื่อยๆจนหน้าสุดท้าย หากเพียงแค่ท่านมีโอกาสอ่านบทหนึ่งบทใดในเสียดาย…คนตายไม่ได้อ่าน ท่านอาจรู้สึกเสียดาย…หากคนเป็นอย่างฉันไม่ได้อ่านต่อไปจนจบ

เสียดาย…คนตายไม่ได้อ่าน ผู้เขียนตั้งใจเรียบเรียงเรื่องวิบากกรรมตามลำดับความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ นั่นคืออะไรเป็นสาเหตุให้เราเป็นอย่างนี้ในปัจจุบัน ด้วยผลกรรมอันใดส่งผลอย่างไร จากนั้นแสดงให้เห็นว่า ธรรมชาติมีภพภูมิอันใดรองรับการกระทำแต่ละรูปแบบของแต่ละคน แล้วสุดท้าย… อะไรที่เราน่าจะทำในขณะมีชีวิตอยู่

รูปแบบการวางโครงเรื่องดังกล่าว กลายเป็นแบบโครงสร้างของหนังสือ แบ่งเป็น ๓ บรรพ บรรพแรกคือการตอบคำถามว่าพวกเรา เกิดมาเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร?


เริ่มจากบทแรกคือ เหตุใดจึงเกิดมาเป็นมนุษย์ ในบทนี้มีบทสำรวจตัวเองว่ามีการกระทำชั่วผิดบาปในระดับไหน บทนี้จะทำให้คุณมีคำตอบให้แก่ตัวเองว่า โชคดีแค่ไหนที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ บทสองคือ เหตุใดจึงเป็นหญิงเป็นชาย ถ้าคุณเคยสงสัยว่าทำไมเพศหญิงลำบากต้องตั้งครรภ์ ต้องมีประจำเดือน แล้วทำไมถึงไม่เกิดเป็นเพศชาย เพศชายสงสัยทำไมไม่เกิดเป็นหญิง บทนี้ให้คำตอบคุณได้ บทที่สาม เหตุใดจึงมีรูปงาม คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนเราเกิดมาสวยบ้างไม่สวยบ้าง บางคนเตี้ยบางคนสูง บางคนจมูกโด่ง บางคนคิ้วสวย อะไรเป็นต้นเหตุบทนี้ให้รายละเอียดอย่างลึกซึ้งที่ทำให้คุณเลิกสงสัยว่าทำไมฉันถึงรูปร่างหน้าตาแบบนี้ บทที่สี่ เรื่องเหตุใดจึงมีฐานะร่ำรวย คุณเคยอยากรวยหรือเปล่า อยากรวยเหมือนคนนั้น ทำไมฉันไม่รวยสักที ทำอย่างไรถึงจะรวย บทนี้ตอบปัญหาคนอยากรวยด้วยกรรมที่ส่งผลด้านเงินทอง ทำให้คุณเข้าใจปัจจุบัน และออกแบบอนาคตได้ บทที่ห้า เหตุใดจึงมีสติปัญญามาก เป็นบทที่จะทำให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างความฉลาดกับปัญญา กรรมที่ทำให้มีปัญญามาก กรรมที่ทำให้เป็นอัจฉริยะ และบทสุดท้ายในบรรพนี้คือ ใครเป็นผู้รู้แจ้งเรื่องกรรม หากการอ่านมาตลอดบรรพแรกคุณมีความแคลงใจว่า กรรมเหล่านั้นส่งผลจริงหรือ บทนี้จะทำให้คุณเข้าใจว่าจริงหรือไม่แล้วใครเป็นผู้มีสิทธิ์หยั่งรู้

บรรพแรกตอบปัญหาเกี่ยวกับชีวิตที่เป็นอยู่ให้กระจ่างขึ้น ต่อมาถึงบรรพที่สอง คือการตอบคำถามว่าพวกเราตายแล้วไปไหนได้บ้าง สัจจะความตายเป็นอย่างไร ตายแล้วไปไหน วิธีชี้ทางสวรรค์แก่ผู้ป่วยใกล้ตายคืออะไร ภพภูมิต่างๆมีลักษณะอย่างไร หากคุณเคยคิดว่าความตายอยู่อีกไกล หรือคิดว่าความตายเป็นสิ่งน่ากลัว บรรพนี้จะทำให้คุณเข้าใจและรับมือกับความตายในอนาคตอย่างสงบ เมื่อรู้อดีต อนาคตแล้ว บรรพที่สาม จะให้คำตอบว่าเรายังอยู่แล้วควรทำอะไร บทนี้ทำให้เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด หากคุณยังไม่แน่ใจว่าคุณมีความละอายต่อบาปมากน้อยแค่ไหน เข้าใจความจริงของชีวิต สภาวะกายและสภาวะจิต ระดับใด บทนี้จะช่วยค้นความเป็นตัวคุณอย่างลึกซึ้ง

ครบสามบรรพเป็นอันว่าครอบครอบคลุมกรรมวิบากและภพภูมิทั้งสามกาล คือ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต หนังสือเล่มนี้จึงคุ้มค่ามากกว่าการได้คำตอบของปัญหาคาใจ แต่ยังให้วิธีคิดและแนวทางออกแบบรูปแบบชีวิต เสียดาย…คนตายไม่ได้อ่าน จึงเป็นหนังสือที่น่าเสียดาย…ถ้าคนมีชีวิตอย่างคุณไม่หยิบมาอ่าน


เพียงใจ

3 ความคิดเห็น:

hippogift กล่าวว่า...

สาธุค่ะ...
เสียดาย...คนตายไม่ได้อ่านเป็นหนังสือที่น่า่อ่านมากนะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรื่องนี้ ตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจมาก ดึงดูดผู้อ่านได้สุดๆ แต่ว่าเราก็ยังไม่ได้อ่าน อ่านะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชื่อหนังสือน่าอ่าน เนื้อหาก็ดี แต่ผู้แนะนำยังไม่ได้นำจุดเด่นของหนังสืออกมาแสดงให้เห็น ภาษาที่ใช้ไม่เสริมให้งานเขียนน่าสนใจชวนติดตาม

7