วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

ใต้ฟ้าฟากกระโน้น


ใต้ฟ้าฟากกระโน้น
คามิน คมนีย์
ปีพิมพ์ 2548
สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น
176 หน้า ภาพประกอบ 115 บาท


“ ใต้ฟ้าฟากกระโน้น ” หนังสือแนวสารคดีท่องเที่ยวเป็นผลงานลำดับที่ 3 ของคามิน คมนีย์นักเขียนจากแดนสะตอที่มีความสามารถทั้งด้านวิชาการและการกีฬา ชายผู้จากถิ่นฐานบ้านเกิดมาตั้งแต่เยาว์วัยเพื่อติดตามความฝันของตัวเอง คามินสอบชิงทุนรัฐบาลได้ไปศึกษาปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยคอร์แนลล์ ประเทศสหรัฐอเมริกาและนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือ “ ใต้ฟ้าฟากกระโน้น ”ได้รับรางวัลชมเชยประเภทสารคดีในการประกวดวรรณกรรมเยาวชนรางวัลแว่นแก้ว ปี 2547

คามินเขียนหนังสือเล่มนี้จากประสบการณ์ชีวิตของตัวเองเมื่อได้รับทุนไปศึกษาต่อในระดับ ปริญญาโททางด้านกฎหมาย ภายในเล่มมีการกล่าวถึงชีวิตก่อนการเดินทางไปศึกษา ชีวิตเมื่อเดินทางกลับ และแบ่งเป็น 3 ภาคใหญ่ๆโดยแบ่งตามภาคการศึกษา คือ การเรียนภาคฤดูใบไม้ร่วง การเรียนภาคฤดูใบไม้ผลิ และการเรียนในภาคเรียนสุดท้าย เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อคามินสอบชิงทุนได้และออกจากงานล่วงหน้านานเกินไป เขาไม่รู้จะทำอะไรดีและอยากประหยัดค่าใช้จ่ายจึงมาพักอยู่กับครูอ้อยเพื่อนที่เป็นครูอยู่ในโรงเรียนเล็กๆ แถบชานเมืองจังหวัดใหญ่กลางภาคใต้ เด็กๆที่นี่เรียกเขาว่า ครูคามิน เหมือนที่พวกเขาเรียกครูอ้อย ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนทำให้คามินผูกพันกับเด็กๆที่นี่และตั้งใจว่าจะเรียนรู้ให้ได้มากที่สุดเพื่อมาเล่าเป็นประสบการณ์ให้เด็กๆฟัง

เขาเดินทางมาอเมริกาด้วยเครื่องบินและมาถึงสนามบินแห่งชาติวอชิงตันเป็นที่แรก จากนั้นต้องเดินทางไปพักบ้านพี่เล็กและพี่หญิงครอบครัวคนไทยที่มาอยู่ที่นี่นานกว่าสิบปีแล้ว คามินเล่าถึงชีวิตการศึกษาของเขาตั้งแต่การรายงานตัวต่อสำนักงานดูแลนักเรียนไทย การเรียนปูพื้นฐานวิชากฎหมายและการเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ชีวิตในต่างแดนทำให้คามินต้องเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ อาทิ ระบบการเรียนการสอนของอเมริกาที่เน้นไปที่การมีส่วนร่วมของผู้ศึกษาด้วยการตั้งคำถาม การแต่งกายมาเรียนของคนอเมริกา ลีลาการสอนของอาจารย์แต่ละท่าน รวมถึงการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมใหม่ การย้ายที่อยู่ การย้ายสถานศึกษา เพื่อนหลากหลายเชื้อชาติ ระบบความคิดของคนอเมริกาและอุปสรรคที่เขาต้องเผชิญขณะศึกษา ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับบุคคลอื่น ความเหงาเมื่ออยู่ไกลบ้าน ระบบการเรียนแบบใหม่ ความกดดันในการเรียนที่เขาต้องหาทางออกให้กับตัวเอง การใช้วิธีเขียนบันทึกประจำวันดูพฤติกรรมตัวเองเพื่อนำมาปรับปรุงชีวิตและการเรียน แม้ในระยะแรกจะกลัวบ้างแต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาเริ่มเคยชินและปรับตัวได้ดีขึ้น คามินใช้กีฬาและกิจกรรมต่างๆเป็นสื่อกลางระหว่างเขากับเพื่อนต่างชาติ ด้วยความตั้งใจแรกที่จะมาเรียนรู้ทุกอย่างให้ได้มากที่สุด คามินจึงศึกษาเรื่องราวทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน แม้จะเรียนหนักแต่เขาก็ลงเรียนหลักสูตรแบกเป้ที่ต้องเดินทางค้างแรมในป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติ ใช้เวลาช่วงเย็นไปกับการเล่นฟุตบอล ออกเดินทางสำรวจสถานที่ต่างๆทั้งน้ำตกใกล้มหาวิทยาลัย นิวยอร์ก และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น เดอะมอลล์ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารสถานที่สำคัญ อนุสาวรีย์วอชิงตัน พิพิธภัณฑ์ หอศิลปะ ทะเลสาบบีบี คอนเนตทิคัตฮิลล์ เป็นต้น นอกจากความรู้ที่ได้รับคามินยังได้เรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่และประเพณีของคนอเมริกาอย่างถ่องแท้ เขาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อเมริกาตลอดและนำมาเล่าให้เด็กๆฟังอย่างละเอียด เขายังได้อธิบายความคิดของคนอเมริกาที่มีลักษณะแตกต่างไปจากคนไทย สิทธิเสรีภาพระหว่างหญิงชายที่เท่าเทียมกัน สภาพสังคมอเมริกา พฤกรรมการบริโภคสินค้าของคนอเมริกาและเรื่องน่าสนใจอื่นๆอีกมากมายที่ได้ถ่ายทอดออกมาผ่านประสบการณ์ตรงอย่างน่าติดตาม

หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่น่าสนใจ สะท้อนให้เห็นถึงความคิดของคนอเมริกาได้อย่างลึกซึ้งและลงตัว แม้จะเป็นหนังสือประเภทสารคดีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอเนื้อหาสาระที่เป็นจริง มุ่งเน้นให้ความรู้และความบันเทิง แต่ผู้เขียนทำเรื่องที่มีเนื้อหาหนักๆอย่างการศึกษาและประวัติศาสตร์ให้อ่านแล้วสนุก เข้าใจง่าย นำเสนอข้อมูลในแง่มุมแปลกใหม่และน่าสนใจโดยผ่านกระบวนการที่มีชั้นเชิงในทางวรรณศิลป์ ผู้เขียนใช้ภาษากึ่งทางการ ประโยคในเรื่องไม่ซับซ้อนและค่อนข้างเห็นภาพชัดเจน มีบทสนทนาแทรกเป็นระยะเพื่อเพิ่มสีสันให้กับเนื้อเรื่อง กลวิธีการเล่าเรื่องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปเล่าถึงชีวิตแต่ละวันตั้งแต่ไปอยู่แรกๆจนถึงกลับเมืองไทย มีการใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “ครู” แล้วเล่าให้เด็กๆฟังถือเป็นการสร้างความเป็นกันเองแก่ผู้อ่าน มีการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นความคิดผู้อ่าน ถ้าเป็นสถานที่หรือความคิดที่อาจทำให้ผู้อ่านสับสนก็จะมีการพรรณนาไว้อย่างละเอียดทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้นและเกิดภาพตาม ชีวิตประจำวัน สถานที่และบุคคลจะมีภาพประกอบเพื่อความเข้าใจและความน่าสนใจซึ่งในแต่ละรูปภาพนั้นจะมีคำบรรยายเขียนไว้ใกล้ๆด้วย หนังสือเล่มนี้ยังได้สอดแทรกสาระความรู้เกี่ยวกับการศึกษาต่างแดนและมีการเปรียบเทียบให้เห็นถึงทัศนคติด้านการศึกษาระหว่างไทยกับอเมริกาที่น่ารับรู้ทำให้เรานำวิธีคิดของคนอเมริกามาประยุกต์ให้เข้ากับตนเองเพื่อเป็นหนทางนำไปสู่ความสำเร็จได้

“ใต้ฟ้าฟากกระโน้น” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้อ่านที่อยากเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่และประวัติศาสตร์อเมริกา หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวของคามินพร้อมกับคอยลุ้นไปกับชีวิตการศึกษาเขาและรู้จักทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอเมริกา สารคดีสนุกแบบมีสาระเล่มนี้ยังรอให้คุณสัมผัสใต้ฟ้าของฟากกระโน้นได้ด้วยตัวเองเพียงแค่พลิกหน้ากระดาษ

ชณัฎฎา

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เขียนได้ดี ใช้ภาษาสั้นกระชับ เข้าใจง่าย เป็นภาษาเขียนที่มีศิลปะในการเรียบเรียงความคิดได้ดี

สังเกตย่อหน้านำเข้าสู่เรื่อง ขึ้นต้นได้ดี สรุปความชัดเจนครบ
ย่อหน้าปิดท้ายใช้ภาษาอย่างมีวรรณศิลป์ เนื้อหาโดยรวมก็ชวนให้ตามไปอ่านตัวเล่มจริง

9

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบทความที่นำมาแบ่งปันให้กัน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล