วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

ย่านเก่า มุมเมือง และเรื่องเล่า


ย่านเก่า มุมเมือง และเรื่องเล่า
กุลธิดา สืบหล้า
ปีพิมพ์ 2548
สำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์
218 หน้า ภาพประกอบ
220 บาท
น้อยคนนักที่จะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลจากการท่องเที่ยวไปตามย่านเก่าและมุมเมืองในแต่ละจังหวัด เพราะความที่เป็นเพียงมุมมุมหนึ่งซึ่งมิใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง หรูหรา ตระการตา หากแต่สามารถสร้างความสุขและความประทับใจแก่ผู้มาเยือนได้ไม่น้อย

ย่านเก่า มุมเมือง และเรื่องเล่า เป็นสารคดีท่องเที่ยวที่มาจากการรวบรวมและคัดสรรผลงานเขียนสารคดีที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร อ.ส.ท. ของกุลธิดา สืบหล้า นักเขียนประจำกองบรรณาธิการอนุสารอ.ส.ท.ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “หนึ่งในบรรดานักเขียนฝีมือดีระดับต้นๆ”ของสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ผู้เขียนได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้สัมผัสจากการเดินทางไปตามย่านเก่า เที่ยวมุมเมืองและฟังเรื่องเล่าจากคนท้องถิ่นของจังหวัดต่างๆในประเทศไทย ผ่านทัศนะคติที่ลึกซึ้งในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นความงดงามของสถานที่ บ้านเรือนและสิ่งก่อสร้าง สีสันของวิถีชีวิตผู้คนตามรายทาง วัฒนธรรมที่หลากหลายของผู้คนในแต่ละท้องถิ่น เรื่องเล่าเก่าก่อนจากคนในท้องถิ่นซึ่งถือกำเนิดและเติบโตมาพร้อมๆกับการเปลี่ยนแปลงของเมืองนั้นจริง ตลอดจนความรู้สึกของนักเดินทางที่ได้สัมผัสกับการต้อนรับอันอบอุ่นด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพทั้งของผู้คนและธรรมชาติ

ผู้เขียนจะพาท่านท่องเที่ยวไปตาม“ย่านเก่า” ทั้งสิ้น 12 แห่ง ใน 11 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี สงขลา แม่ฮ่องสอน นครพนม เชียงใหม่ ลำพูน สมุทรสงคราม ระนอง พังงา กาญจนบุรีและ
สุราษฎร์ธานี โดยแบ่งเป็นเรื่องตามสถานที่ ในแต่ละเรื่องมีภาพประกอบสวยงามพร้อมคำบรรยายชัดเจน ทั้งภาพถ่ายฝีมือสายัณห์ ชื่นอุดมสวัสดิ์ ช่างภาพผู้ร่วมงานกับผู้เขียนที่อนุสารอ.ส.ท. ภาพลายเส้นเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและแผนที่ประกอบของยอด เนตรสุวรรณ และความรู้ในการชมสถาปัตยกรรมโบราณในภาคผนวกท้ายเล่มที่เขียนโดยศรันย์ บุญประเสริฐ บรรณาธิการเล่ม ประกอบกับผู้เขียนเองที่ใช้สำนวนภาษาเรียบง่ายในการถ่ายทอดทุกเรื่องราวอย่างละเอียด ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย เกิดความเพลิดเพลิน ตลอดจนเกิดจินตนาการเสมือนว่าได้เข้าไปสัมผัสกับเรื่องราวในอดีต ณ สถานที่นั้นด้วยตนเอง จึงอาจกล่าวได้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นสารคดีคุณภาพที่สร้างสรรค์โดยบุคลากรคุณภาพอย่างแท้จริง

ฉันรู้สึกประทับใจทุกครั้งที่ได้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ตั้งแต่ชื่อหนังสือ “ ย่านเก่า
มุมเมือง และเรื่องเล่า” ที่สื่อถึงสิ่งที่มีอยู่ภายในได้อย่างครบถ้วน รวมไปถึงชื่อเรื่องที่ให้ความรู้สึกน่าติดตาม เช่น “คนเก่าเล่าเรื่อง มุมหนึ่งในเมืองจันท์” “ ในเมืองเก่าสงขลาที่ซึ่งลมหายใจยังไม่ขาดช่วง” “ตัวตนที่ต้องค้นหาในเกาะพงัน” “สุดสาย-ปายทาง เป็นต้น ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวในงานของผู้เขียนที่สามารถถ่ายทอดเสน่ห์ของการเดินไปตามย่านเก่า การเที่ยวไปตามมุมเมือง และการฟังเรื่องเล่าจากคนท้องถิ่น ทำให้หนังสือเล่มนี้มิได้เป็นเพียง “หนังสือไกด์บุ๊กหรือคู่มือท่องเที่ยวธรรมดา” ที่บอกแค่เพียงความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น หากแต่เป็นเหมือนบันทึกการเดินทางที่มีชีวิต ผ่านคำบอกเล่าของผู้เขียนสู่ผู้อ่าน โดยมุ่งเน้นให้เห็น “ชีวิตของคนแบบยุคก่อนที่ยังคงอยู่อาศัยในย่านเก่าและชุมชนดั้งเดิม ซึ่งยังมีความจริงใจเป็นเสน่ห์สำคัญที่สุดยิ่งเสียกว่าอาคารบ้านเรือนที่พวกเขาอยู่อาศัย”

สำหรับฉันแล้วคุณค่าของหนังสือเล่มนี้มิได้อยู่ที่การให้ความรู้และความเพลิดเพลินเท่านั้น หากแต่ยังมีคุณค่าทางจิตใจด้วย เมื่อใดที่มีหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือ ฉันรู้สึกเหมือนว่าได้อ่านตำราความรู้ในสาขาวิชาต่างๆหลายเล่มในเวลาเดียวกันแต่กลับไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือแม้แต่ภาษาและวรรณคดี ตลอดจนมุมมองชีวิตที่หลากหลาย ด้วยความรู้ความสามารถและความเอาใจใส่ทุกรายละเอียดของผู้เขียนที่สามารถสอดแทรกเรื่องราวความรู้และแง่คิดต่างๆได้อย่างลงตัวและกลมกลืนกับเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี

ฉันยังคงจำข้อความจากตอนหนึ่งในเรื่อง “ในเมืองเก่าสงขลา ที่ซึ่งยังมีลมหายใจ” ได้ขึ้นใจ ความว่า “รถไฟพาฉันห่างย่านเก่าแห่งเมืองสงขลามาเรื่อยๆ แต่ฉันเชื่อว่า หากได้ย้อนกลับไปอีกครั้ง ไม่ว่าจะอีกนานเพียงใด ย่านเก่านั้นก็ยังคงอยู่...เพราะมันเป็นย่านเก่าที่ยังมีลมหายใจ” ทุกถ้อยคำที่ผู้เขียนได้บรรจงเรียงร้อยออกมาเป็นถ้อยคำที่เรียบง่ายแต่ทว่าลึกซึ้งกินใจ ทำให้ฉันเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของ “ย่านเก่า” ที่มิเคยลดลงตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เปรียบเสมือนดินแดนที่มีชีวิตเป็นอมตะซึ่งเป็นรากเหง้าแห่งความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองรวมไปถึงผู้คนในปัจจุบันและอนาคต

ย่านเก่า มุมเมือง และเรื่องเล่า ช่วยเปิดโลกการท่องเที่ยวในมุมมองที่แปลกใหม่ให้นักเดินทางผู้ด้อยประสบการณ์อย่างฉันได้ “ซึมซับเสน่ห์และกลิ่นอายแห่งตำนานชุมชน ประวัติศาตร์ท้องถิ่น จากนักเดินทางที่บรรจงร้อยเรียงเรื่องราวด้วยทัศนะคติที่ลึกซึ้ง ละเมียดละไม” อย่างแท้จริง
กนกนภา

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เลือกหนังสือได้น่าสนใจ วิธีการเขียนสามารถนำเนื้อหาเด่นๆ ออกมาสร้างแรงจูงใจชวนให้อยากอ่านได้ดี ภาษาไม่ยาก แต่ใช้ประโยคยาวขยายซ้อนขยาย อย่างไรก็ตาม ภาพรวมรู้สึกได้ถึงความประทับใจหลังจากที่อ่านหนังสือเล่มนี้

9