วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

The Secret


The Secret (เดอะซีเคร็ต)
ผู้เขียน : รอนดา เบิร์น
ผู้แปล : จิระนันท์ พิตรปรีชา
พิมพ์ครั้งที่ ๔๐ / ๒๕๕๑
สำนักพิมพ์อมรินทร์
๑๙๙ หน้า ภาพประกอบ
๒๔๕ บาท


The Secret เพียงชื่อหนังสือก็ดึงดูดความสนใจของดิฉันแล้ว คำถามแรกที่เกิดขึ้นในความคิดหลังสะดุดตากับหนังสือปกสีน้ำตาล มีลายมือและเส้นวาดเขียนลายตาจนดูไม่รู้เรื่องเหมือนรหัสลับบางอย่างที่วางอยู่บนแฝงหนังสือนั้นช่างดึงดูดให้หยิบขึ้นมาเปิดอ่าน “ความลับ”อย่างนั้นหรือ อะไรคือความลับที่ผู้เขียนต้องการจะบอก สิ่งใดคือความลับที่คนทั้งโลกปรารถนาจะล่วงรู้ไม่ว่าจะแลกด้วยเงินทองมากมายเพียงใด ความลับอะไรคือปลายเหตุของการช่วงชิงครั้งนี้ และสิ่งสำคัญที่ดึงดูดให้ดิฉันตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้มาก็คือ ความลับที่ว่านี้รู้กันเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงของโลกอย่าง ไอน์สไตน์ เชคสเปียร์ เบโธเฟน เอดิสันหรือแม้แต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครฤๅที่ไม่ปรารถนาจะทราบหากความลับอันยิ่งใหญ่นี้ถูกรวบรวมและตีพิมพ์อยู่ในหนังสือเล่มเล็กเพียงแค่เปิดอ่าน

ผู้เขียน รอนดา เบิร์น ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวตั้งแต่หน้าแรกของ The Secret ชีวิตของเธอที่ตกระกำลำบากจนถึงขีดสุด มนุษย์คนหนึ่งที่ประสบโชคร้ายเสียจนไม่คิดจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ทว่าในความย่ำแย่เหล่านั้นกลับมอบของขวัญพิเศษที่เรียกว่า “ความลับ” นี้ให้เธอได้รับรู้ รอนดาค้นพบว่าความลับนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์และนำมาใช้ได้จริง สิ่งพิเศษอันน่าเหลือเชื่อเหล่านี้ดึงดูดให้เธอสืบหาไปถึงผู้รู้ในอดีตและพบว่าเป็นความลับที่น้อยคนนักจะทราบ อีกทั้งกลุ่มคนเหล่านั้นล้วนมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น ในที่สุดเธอจึงค้นหากลุ่มบุคคลที่ล่วงรู้ถึงความลับนี้และยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันเพื่อรวบรวมคำบอกเล่าเกี่ยวกับความลับนี้ให้คนทั้งโลกได้รับรู้ กระทั่งสร้างเป็นภาพยนตร์ The Secret ที่บันทึกบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับประสบการณ์ของบุคคลเหล่านั้น และถ่ายทอดมาเป็นหนังสือที่ติดอันดับขายดีในอเมริกาเป็นเวลากว่าสี่สิบสัปดาห์และได้รับการแปลเป็นหลายภาษาทั่วโลก

ความลับที่ว่านี้ก็คือ “กฎแห่งการดึงดูด” (Law of Attraction) โดยมีหลักการว่า สิ่งที่เหมือนกันนั้นจะมีแรงดึงดูดเข้าหากัน เวลาที่คิดอะไรไม่ว่าจะดีหรือร้าย ความคิดเหล่านั้นจะถูกส่งต่อผ่านคลื่นความถี่ของความคิดไปสู่จักรวาลและดึงดูดสิ่งที่มีความถี่เหมือนกันเข้ามาหาแหล่งกำเนิดซึ่งก็คือผู้คิด ความคิดสามารถสร้างอนาคตได้ หากคิดอยากจะมี จะเป็น หรือจะทำอะไร เมื่อคลื่นความคิดถูกส่งไปในความถี่ติดๆกันแล้ว ความคิดนั้นก็จะเป็นจริงขึ้นมา ตัวเราก็เปรียบเสมือนเสาอากาศมีชีวิตที่ส่งสัญญาณออกไป และความคิดเหล่านั้นจะปรากฎบนจอภาพนั่นก็คือ ประสบการณ์ชีวิตของเรานั่นเอง เหมือนกับโทรทัศน์ที่เลือกได้เพียงแค่เปลี่ยนช่อง ชีวิตของมนุษย์ก็เช่นเดียวกัน หากปรารถนาสิ่งใดก็เลือกได้เพียงเปลี่ยนความคิดเท่านั้น

เมื่อทราบถึงหลักการเหล่านี้ในวินาทีแรกนั้น ดิฉันเชื่อว่าทุกคนต้องคิดเช่นเดียวกันว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เหมือนเป็นเรื่องไสยศาสตร์ที่ไร้หลักการ น่าแปลกที่สิ่งที่เรียกว่า “ความคิด” นั้นมีอิทธิพลอยู่เหนือสรรพสิ่งทุกอย่างในโลก ไม่ได้เป็นเพียงแค่ปฏิกิริยาในสมองอย่างที่คนส่วนมากเข้าใจเท่านั้น แต่หากลองอ่าน The Secret ที่ผู้เขียนได้รวบรวมความคิดและจัดระเบียบเป็นขั้นตอนที่เรียบง่ายแล้วปมความสงสัยในใจก็จะถูกแก้ออกทีละน้อย เนื้อหาภายในเล่มได้จัดสรรอย่างดีตามรูปแบบความคิด ตั้งแต่การตอบข้อสงสัยที่ว่า ความลับคืออะไร มาจนถึงวิธีการใช้ความลับนี้ และวิธีใช้ความลับในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความลับสู่การมั่งมี ความลับปรับความสัมพันธ์ ความลับการปรับสุขภาพและปรับชีวิต

เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจเมื่อดิฉันอ่าน The Secret และมีข้อสงสัยอะไร ในบทต่อมาก็จะมีคำตอบให้ทันที เรียกได้ว่าผู้เขียนเรียงลำดับเหตุและผลตามลำดับความคิดของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี จึงง่ายต่อการอ่านและทำความเข้าใจ อีกทั้งมีการเน้นหนักคำว่า “คุณ” ซึ่งก็คือผู้อ่าน ราวกับว่าผู้เขียนได้พูดคุยกับผู้อ่านโดยตรง เหล่าวิทยากรที่ผู้เขียนได้ไปสัมภาษณ์นั้นก็เล่าถึงความลับนี้ที่เชื่อมโยงกับศาสตร์แขนงต่างๆที่ตนเป็นผู้เชี่ยวชาญ แทรกทฤษฎีที่อ้างอิงได้ในทางวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งน่าสนใจที่ว่า ความลับนี้ครอบคลุมถึงศาสตร์ทุกสาขาในโลก อันสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตของมนุษย์ทุกคนบนโลกได้

ดิฉันชอบข้อความหนึ่งใน The Secret ที่กล่าวว่า “โรคระบาดที่ร้ายกาจกว่าโรคใดๆที่มนุษยชาติเคยพบเห็นมาได้ระบาดลุกลามมาหลายศตวรรษ นั่นก็คือ “โรคไม่ต้องการ” ผู้คนต่างแพร่เชื้อโรคนี้ไม่ให้สูญไปด้วยการเอาแต่คิด พูด ทำและมุ่งสนใจแต่เรื่องที่ตนเอง “ไม่ต้องการ” แต่คนรุ่นเรานี่แหละที่จะพลิกประวัติศาสตร์ เพราะว่าเรากำลังได้รับรู้ที่จะปลดปล่อยเราจากโรคระบาดนี้” ดิฉันอ่านข้อความข้างต้นแล้วคิดย้อนมาถึงตนเอง ในชีวิตคนเรามักมองสิ่งที่ไม่ต้องการก่อนสิ่งที่ต้องการเสมอ มักจะคิดแต่ว่า “ฉันไม่ต้องการแบบนี้” มากกว่า “ฉันต้องการแบบนี้” เมื่อเปรียบเทียบกับประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตก็พบว่าเรื่องราวที่อยู่ใน The Secret นั้นเป็นจริงไม่ผิดเพี้ยน เพราะกฎแห่งการดึงดูดที่ดึงดูดสิ่งที่เราไม่ต้องการเข้ามาทำให้มันเกิดขึ้นจริง

The Secret เป็นความลับฉบับง่ายที่รวบรวมมาให้เหล่ามนุษยชาติได้ล่วงรู้ถึงความลับที่ถูกปิดบังมายาวนาน ความลับที่ในอดีตมีคนเพียง ๑% ในโลกที่รับรู้และบุคคลเหล่านี้เป็นกลุ่มเดียวกับที่กุมรายได้ทั่วโลกกว่า ๙๖% ความลับที่คนอีก ๙๙% ถูกปิดบังมานานกำลังเปิดเผยเพื่อให้ตื่นจากหลับใหลและรู้จักวิธีการใช้ความลับนี้เพื่อจะประสบความสำเร็จในชีวิต

The Secret กระตุ้นให้ผู้อ่านพัฒนาตนเอง เป็นหนังสือแนวจิตวิทยาที่น่าอ่านอีกเล่มหนึ่ง และเหมาะกับมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนมั่งมีหรือยากจน จะท้อแท้ สิ้นหวังในชีวิตจนไร้หนทางที่จะก้าวเดินต่อไป The Secret จะดึงดูดสิ่งดี ความคิดดี และการใช้ความคิดที่ดีมาสู่ตัวคุณ เพื่อจุดมุ่งหมายสูงสุดก็คือ การทำให้ทุกคนปรับเปลี่ยนรูปแบบชีวิตไปสู่สิ่งที่ตนปรารถนา

หากต้องการประสบความสำเร็จไม่ว่าด้านใดด้านหนึ่ง The Secret เล่มนี้ เป็นหนังสือที่ไม่ควรปล่อยให้คลาดสายตาไปได้

ลัทธพร

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขึ้นต้นและลงท้ายยังไม่ดี ไม่ชวนติดตามและประทับใจ


7.5