วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

ที่อยู่ของความรัก



วิษณุ สวาสุด ๐๕๔๙๐๓๖๗ กลุ่ม ๒ (๔๑๑ ๒๐๗)ที่อยู่ของความรัก
จิตรกร บุษบา
พิมพ์ครั้งที่ ๒
ปีที่พิมพ์ ๒๕๕๐
สำนักพิมพ์บานชื่น
๑๒๗ หน้า ภาพประกอบ
๑๑๐ บาท

ความรักหาได้มีรสอย่างเกลือ น้ำตาล หรือน้ำปลา หากแต่รสชาติแปรเปลี่ยนไปตามส่วนผสมต่างๆ ที่ปรุงแต่งเข้าด้วยกัน ดังนั้นคนแต่ละคนจึงมีนิยามของคำว่า “รัก” แตกต่างกันไป เวลาที่พูดถึงความรักโดยการพยายามจะหาคำจำกัดความจึงไม่ง่าย เพราะความรักมีใจความกว้างใหญ่เสียจนไม่อาจหานิยามที่ครอบคลุม หรือสิ้นสุดได้ ทว่าทางที่ง่ายกว่า และงามกว่าก็คือ เราต้องพยายามมองให้เห็นว่าอะไรคือความรักบ้าง ไม่ใช่มองจากมุมเดิมๆ ว่าความรักคืออะไร ดังที่หนังสือเล่มอุ่นนี้ได้เอื้อนเอ่ยอย่างอารี

จิตกร บุษบา คือนักเขียนที่นิยมความเรียบง่าย แต่ไม่ประหยัดมุมมอง เขาพร้อมแจกแจงมุมที่ควรเห็นให้เป็นทางเลือกใหม่ๆ แก่ผู้อ่าน ด้วยภาษาที่อ่อนหวาน อ่อนไหว โดยเฉพาะภาษาใน “ที่อยู่แห่งความรัก” นี้ เพื่อที่จะทำให้ผู้อ่านมองเห็น “รัก” ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เขาพูดอยู่เสมอว่าโลกใบนี้คือ “ทุ่งดอกรัก” ที่มีความรักผลิบานอยู่รอบตัวคน คนจึงมีหน้าที่ที่จะเห็นและหาที่อยู่ของความรัก เพราะความรักไม่ควรถูกทิ้งขว้างให้ต้องพเนจรร่อนเร่

ความรักจะอยู่ในใจก็ได้ อยู่ในดอกไม้ก็ได้ อยู่ในบ้านก็ได้ อยู่ตรงรั้วก็ได้ หรืออยู่ในอาหารสักจานหนึ่งก็ได้ จานที่คุณรักมัน เพียงแต่คุณเคยเห็นไหม เห็นความรักในอาหารจานโปรด ในดอกไม้สักชนิดหนึ่งที่คุณหลงใหล หรือเสื้อยืดตัวเก่าซอมซ่อสักตัวที่คุณยังใส่และไม่ยอมทิ้ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรายอมเปิดพื้นที่ให้สิ่งนั้นอยู่เป็นส่วนหนึ่งของเรา ทำให้เราเต็ม ทำให้เราครบ ทำให้เราอิ่ม ทำให้เราเย็น ทำให้เราสว่าง นี่แหละ......คือความรัก

หนังสือเล่มนี้เหมือนกับการพาผู้อ่านไปทัศนะศึกษาว่าความรักอยู่ที่ใดบ้าง สวยงามไหม โดยที่บางครั้งความรักไม่จำเป็นต้องเกิดจากเรา ไม่ใช่ของเรา อาจเป็นความรักของคนอื่น แต่เราเห็นความรักได้ ยิ้มให้กับความรักได้ และความรักก็ส่งยิ้มตอบให้เราได้ด้วย ความรักคือมิตร คือสิ่งสวยงามทำไมเราต้องไปคิดแค่เพียงว่าเราต้องเป็นเจ้าของความรักเท่านั้นแล้วเราจะมีความสุข

ส่วนแรกในหนังสือเล่มนี้ จิตรกรเปรียบเทียบว่า คล้ายกับสวนหน้าบ้านของบ้านสักหลังหนึ่งที่เมื่อใครก็ตามเดินเข้ามา จะสัมผัสได้ถึงความราบรื่น สวยงาม สบายตาสบายใจ รู้สึกได้ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของคนชนิดไหน ต่างจากบ้านที่คุณเคยอยู่หรือไม่

บอกรักซึ่งอยู่ในส่วนแรกเป็นเหมือนเพลงโหมโรง เชิญชวนและนำทางให้ผู้อ่านเข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความรัก ให้ผู้อ่านสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของความรักก่อนทีละน้อย จนเกิดความอิ่มใจในทางต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับที่ผู้อ่านเคยรู้จัก หรือเคยรู้สึก

ส่วนที่สองของเนื้อหาเปรียบเหมือนคำทักทาย และการต้อนรับที่อบอุ่นเป็นกันเองสำหรับทุกคนที่ก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน โดยการเล่านิทานให้ฟังอย่างอิ่มใจ
ขวบปีของความรัก คือนิทานสิบสองเรื่อง ที่แสดงระยะการเติบโตของความรักในแต่ละเดือน ในนิทานจะมีตัวละครหลักคือคนสวนกับดอกกุหลาบ บางครั้งคนสวนรู้ บางครั้งคนสวนก็ไม่รู้ บางครั้งดอกกุหลาบถาม บางครั้งดอกกุหลาบตอบ บางครั้งคนสวนก็เอาสิ่งที่ตัวเองเรียนรู้ไปเล่าให้เด็กคนหนึ่งฟัง หรือเล่าให้คนโน้นคนนี้ฟัง นี่คือการถ่ายทอดความเข้าใจเรื่องความรักให้แก่กันและกัน

ส่วนที่สาม ผู้เขียนเปรียบเหมือนการเดินชมบ้าน ชมห้องต่างๆ ว่ามีกี่ห้องในแต่ละห้องใครเคยอยู่ และอยู่เพื่อใคร ทำไมจึงเป็นบ้านขึ้นมาได้ และทำไมยังคงเป็นบ้านอยู่

บ้านที่มีความรักเป็นทุนรอนและส่วนประกอบ

คนในรัก เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของหนังสือเล่มนี้ เนื้อหากล่าวถึงความรักแรกๆ ที่เกิดขึ้นกับทุกคน คือความรักจากคนในครอบครัว จากคนในชีวิต ผมคิดว่าก่อนที่เราจะรักใครสักคนเป็น หรืออยากจะรักใครสักคน แม้ได้ผ่านช่วงเวลาที่มีคนรักเรามาก่อน ทว่าสุดท้ายเรามักจะลืมคนเหล่านั้น เราลืมความรักที่เคยได้รับเหล่านี้แล้วก็เที่ยวไปวิ่งไล่ตามความรักเสียจนเหน็ดเหนื่อย ทั้งที่เรามีความรักและคนที่รักเราอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือเรารักเขาหรือเปล่า เราอิ่มกับความรักที่มีขณะนี้หรือเปล่า เราเคยใช้ความรักหรือเปล่า ในฐานะที่ความรักเป็นต้นทุนทางชีวิตของเรา

ส่วนที่สี่ เปรียบเหมือนของฝากที่ผู้มาเยี่ยมเยือนจะได้รับติดไม้ติดมือกลับบ้าน แน่นอนว่าความรักคือของดีของบ้านนี้ ดังนั้นของฝากจากบ้านนี้ก็ต้องเป็นความรัก ซึ่งเจ้าของบ้านมอบให้ด้วยน้ำใจไมตรี

ในส่วนนี้มีเรื่องสั้นสองเรื่อง ทิ้งท้ายไว้เป็นของฝาก ดุจจะบอกกับผู้อ่านว่า ไม่ว่าความรักจะอยู่ที่ไหน ในมือเรา หรือมือใครเราก็สุขได้ ให้เห็นว่ารักก็คือรัก ความรักต้องการที่อยู่ ที่ที่ความรักเลือกอยู่เพราะอยากจะอยู่

ตัวหนังสือในบ้านกระดาษเล่มนี้น่าจะมีพลานุภาพพอที่จะกระทบอารมณ์ผู้อ่าน ให้หัวใจผู้อ่านได้เต้นแรงบ้าง น้ำตาเอ่อบ้าง เพื่อจะได้แน่ใจว่าหัวใจยังอยู่กับเขา

หัวใจยังทำงานอยู่ แทบทุกเรื่องจะชักจูงผู้อ่านให้เดินออกจากตัวเอง อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เดินกลับเข้ามาหาตัวเองอีกครั้งผู้อ่านจะได้เห็นความกว้างยิ่งขึ้นของชีวิต และรักชีวิตมากขึ้น รักสิ่งที่ชีวิตตัวเองมี ที่ที่ตัวเองอยู่ และสิ่งที่ตัวเองเป็น

ความรักคงไม่ได้ให้แค่ความสุขหรือความทุกข์อย่างเดียว แต่ได้ให้โจทย์และการเรียนรู้แก่ชีวิตด้วย ที่สำคัญก็คือ เมื่อคุณทำให้ความรักเกิดขึ้นแล้ว คุณก็มีหน้าที่ที่ต้องรับรู้ถึงการมีอยู่ของความรัก พูดคุย หล่อเลี้ยงความรัก บอกความรักด้วยว่าควรจะอยู่อย่างไร ตลอดจนต้องหาที่อยู่ที่เหมาะสมให้กับความรักด้วย เพื่อที่ความรักจะได้อยู่กับคุณตลอดไป ดังเช่นบ้านกระดาษแห่งความรักหลังนี้แสดงให้คุณประจักษ์


วิษณุ

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ใช้ภาษาสวิงสวายแต่ไม่ค่อยสื่อความหมายได้ดังที่ใจคิด อะไรคือ "หนังสือเล่มอุ่น" เอื้อนเอ่ยอารีว่าอะไร

อิ่มใจในทางต่าง ๆ คืออะไร
ทุนรอนเพื่อทำอะไร

หลายคำถามเกิดจากการใช้คำที่ไม่อาจสื่อความหมายได้ชัดเจนนัก

7