วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

เทวากับซาตาน Angels & Demons


เทวากับซาตาน Angels & Demons
แดน บราวน์ เขียน
อรดี สุวรรณโกมลและอนุรักษ์ นครินทร์ แปล
พิมพ์ครั้งที่ ๔
๖๐๒ หน้า ๓๔๕ บาท
แพรวสำนักพิมพ์

นวนิยายลึกลับตื่นเต้นชวนติดตามเรื่อง เทวากับซาตาน ที่ อรดี สุวรรณโกมล และ อนุรักษ์ นครินทร์ ได้แปลมาจาก Angels & Demons นี้ เป็นผลงานการประพันธ์เรื่องที่สามของแดน บราวน์ ผู้แต่ง The Da Vinci Code หรือ รหัสลับดาวินชี ที่เป็นที่ยอมรับในวงการหนังสือทั่วโลกมาแล้ว

เทวากับซาตานเล่มนี้จะมีปริศนามากมายหลากหลายมาให้ผู้อ่านได้ติดตามและขบคิดไปตามเนื้อเรื่องอีกครั้ง เหมือนกับ การถอดรหัสและการตีความบทกวีโบราณจาก รหัสลับดาวินชี รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์จากมันสมองอันอัจฉริยะของศิลปิน ซึ่งก็คือ รูปสมมาตร ของหน้าปก ที่ทุกคนเห็นแล้วต้องทึ่งกับตัวอักษรเหล่านี้ โดยผู้แต่ง แดน บราวน์ ได้ใช้ภาษาสื่อออกมาด้วยความประณีตและขัดเกลาจนมีเสน่ห์ น่าค้นหา และน่าติดตาม ผจญภัยไปกับเนื้อเรื่องราวกับว่าเราได้เข้าร่วมผจญภัยไปกับเนื้อเรื่อง

จุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์แดน บราวน์ คือการดำเนินเนื้อเรื่องราวกับว่าเป็นตัวละครนั้น เมื่อเห็นสถานที่เป็นอย่างไรก็อธิบายไปเช่นนั้น คำอธิบายของเขาแต่ละประโยค ช่วยทำให้ผู้อ่านเห็นภาพ ราวกับว่าอยู่ในสถานที่นั้น ประกอบกับกลวิธีในการคิดของเขา ทำให้เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตอนท้ายสุดของเรื่องจะจบลงเช่นไร

โรเบิร์ต แลงดอน ศาสตราจารย์ด้านศาสตร์สัญลักษณ์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตัวเอกเดียวกับ รหัสลับดาวินชี เพียงแต่ว่าเหตุการณ์ใน เทวากับซาตาน เกิดก่อนเรื่อง รหัสลับดาวินชี เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในนครรัฐวาติกัน ที่ประทับแห่งสมเด็จพระสันตะปาปา ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ทั้งยังเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในวาติกัน และสถานที่ต่างๆในสำนักวาติกันอันเป็นความลับสำหรับบุคคลภายนอกอีกด้วย ผลงานศิลปะ หลุมฝังศพ อุโมงค์ และสถาปัตยกรรมในกรุงโรม ที่อ้างถึงทั้งหมดเป็นสิ่งที่อยู่จริงทั้งสิ้น รวมทั้งตำแหน่งที่ตั้งด้วย และทุกวันนี้ยังสามารถพบเห็นสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้

การตายของยอดนักวิทยาศาสตร์และการเสด็จสวรรคตขององค์พระสันตะปาปา ทำให้แลงดอนต้องเข้ามาไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างศาสนากับวิทยาศาสตร์อย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยมีสาวสวยบุตรสาวของผู้ที่ถูกฆาตกรรม วิตโตเรีย เวตรา นักวิทยาศาสตร์ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการคิดค้นผลิตอนุภาคของปฏิสสาร เป็นผู้ช่วย ทั้งสองช่วยกันแก้ปัญหา แก้โจทย์สัญลักษณ์ต่างๆที่องค์กรลับ อิลลูมินาติสร้างขึ้นเพื่อนำไปสู่สิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาทั้งหมด ปฏิสสารที่มีอานุภาพทำลายล้างเหนือปรมาณู ๒๐เท่าได้ถูกซ่อนไว้ ณ ในกลางของนครรัฐวาติกัน รวมไปถึงการยับยั้งเจ้าฆาตรกรที่วางแผนสังหารพระคาร์ดินัลทั้งสี่ ทั้งหมดต้องแข่งกับเวลาอันเร่งด่วนก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ แม้จะพบกับความลำบากในการค้นหาสัญลักษณ์ของอิลลูมินาติเพียงใด แลงดอนกับวิตโตเรียไม่เคยย่อท้อต่อและอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ตนเองเท่านั้นที่สามารถนำตัวเราเองไปสู่จุดหมายได้

นอกจากเป็นเนื้อเรื่องที่สนุกและชวนน่าติดตามแล้วแดน บราวน์ยังสื่อสะท้อนให้เห็นถึงความจริงเกี่ยวกับมนุษย์และโลกในปัจจุบันว่า พระเจ้าไม่ได้เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิต คนเราเองตะหากที่เป็นผู้กำหนดทางเดินของชีวิต หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อยากจะแนะนำผู้อ่านได้อ่าน เพราะเป็นหนังสือแปลที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง เนื้อหาภายในเรื่องเต็มไปด้วยความรู้หลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ด้านประวัติศาสตร์ โบราณสถานและประติมากรรมต่างๆที่ผู้อ่านอาจจะยังไม่เคยได้รับรู้และทำให้ผู้อ่านเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ได้ผจญภัยไปกับเนื้อเรื่อง และเชื่อว่าผู้อ่านจะได้รับความสนุกและความเพลิดเพลินจาหนังสือเล่มนี้จนไม่สามารถวางได้ลงหรือละสายตาไปจากหนังสือเล่มนี้และอาจจะย้อนกลับมาอ่านใหม่อีกครั้งในครั้งต่อไป

ศศิพงศ์

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เขียนได้ดีทุกย่อหน้า ยกเว้นย่อหน้าท้ายที่ห้วนและรีบจบ


8

หนุ่มอักษร...นอนตื่นสาย กล่าวว่า...

น่าจะหาปกที่มีคำว่า Angles&Demons มาโชว์นะครับ จะได้เห็น "แอมบิแกรม" (รูปสมมาตร) ที่สวยมากๆ รูปหนึ่ง (จำได้ว่า แดน บราวน์ เอาชื่อ "แลงดอน" มาจากชื่อของช่างที่ทำรูปแอมบิแกรมพวกนี้ให้เขา)

จุดที่น่าจะเร้าความสนใจของผู้อ่านได้มากๆ ก็น่าจะเป็นความแรงของหนังสือเอง ผู้แนะนำน่าจะยกมา โดยอาจเปรียบเทียบกับดาวินชีโค้ด "หากรหัสลับดาวินชีคือการท้าทายความเชื่อของคริสตจักร เทวากับซาตานก็คือการท้าทายคริสตจักรโดยตรง เพราะเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในกรุงวาติกันอันเป็นดินแดนแห่งพระผู้เป็นเจ้า"

อีกข้อที่น่าสนใจก็คือ เนื้อหาเป็นการตีความสัญลักษณ์ล้วนๆ ไม่เหมือนดาวินชีโค้ดที่ส่วนมากเป็นการถอดรหัส (ซึ่งไม่น่าจะเข้ากับนักสัญลักษณ์วิทยาอย่างแลงดอน) อาจจะยกตรงนี้มาให้น่าสนใจขึ้นอีกได้ครับ

::วุฒินันท์::