วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

ปีกแดง


ปีกแดง

วินทร์ เลียววาริณ
พิมพ์ครั้งที่ ๒/๒๕๔๕
สำนักพิมพ์113
๕๒๐ หน้า ภาพประกอบ
๒๔๕ บาท


ปีกแดง เป็นนวนิยายเรื่องหนึ่งที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมดีเด่นจากคณะกรรมการหนังสือแห่งชาติ ประเภทบันเทิงคดี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๕ การที่นวนิยายเรื่องหนึ่งจะได้รับรางวัลดีเด่นถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะบางปีไม่มีหนังสือเรื่องไหนได้รางวัลดีเด่นจากการประกวดหนังสือในเวทีนี้ แต่ ปีกแดง ของ วินทร์ เลียววาริณ สามารถทำได้ เป็นการรับรองคุณภาพว่าหนังสือเล่มนี้มีคุณค่าคู่ควรกับการอ่านมากเพียงใด

ปีกแดง เป็นนวนิยายที่ประพันธ์โดย “วินทร์ เลียววาริณ นักเขียน ๒ ซีไรต์” ผู้เขียนที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์แห่งอาเซียน ๒ ครั้ง คือนวนิยายประวัติศาสตร์การเมืองไทยเรื่อง ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน และรวมเรื่องสั้นอีกหนึ่งเล่ม คือ รวมเรื่องสั้นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน และวรรณกรรม ปีกแดง เล่มนี้ ก็เป็นวรรณกรรมดีเด่นในระดับชาติ

ปีกแดง เป็นนวนิยาอิงประวัติศาสตร์การเมือง โดยเรื่องราวจะดำเนินมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๖๐ ตั้งแต่ตัวละครเอกยังไม่เกิด (ตัวละครเอกเกิดปี พ.ศ.๒๔๖๕) โดยใช้วิธีเล่าย้อนไป จนถึงปี พ.ศ.๒๕๓๔ หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียด มี “รุจน์” เป็นตัวละครที่ดำเนินเรื่องไปตลอด เน้นเรื่องราวของสงครามเย็น ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมืองหลังสงครามโดลกครั้งที่ ๒ เป็นต้นมา ผ่านสงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม การตั้งฐานทัพทหารอเมริกันในประเทศไทย จนกระทั่งการล่มสลายของสหภาพโซเวียด อันเป็นการสิ้นสุดสงครามเย็นอย่างเป็นทางการ และเพื่อความง่ายในการลำดับเรื่องราว ผู้เขียนได้แบ่งเรื่องราวออกเป็น ๓ ภาค คือ ภาค ๑ พ.ศ.๒๔๖๐-๒๔๘๙ เป็นภาคที่กล่าวถึงการปูพื้นฐานชีวิตของตัวละครเอก จนถึงเหตุการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ภาคที่ ๒ พ.ศ.๒๔๙๐-๒๕๐๗ เป็นช่วงที่ตัวละครเอกมีส่วนเขาไปพัวพันกับระบอบคอมมิวนิสต์ทั้งทางตรงและทางอ้อม และภาคสุดท้ายภาคที่ ๓ พ.ศ.๒๕๐๘-๒๕๓๔ เป็นช่วงที่ชีวิตของตัวละครเอกไม่โลดโผนเหมือนช่วงที่ ๒ เป็นช่วงที่นุ่มนวลลง แต่ก็ยังนำเนอเรื่องราวเกี่ยวกับทฤษฎีและเกมทางการเมือง จนถึงการได้รับชัยชนะของโลกเสรีทุนนิยมในปี พ.ศ.๒๕๓๔ การล่มสลายของสหภาพโซเวียด

ผู้เขียนไดกำหนดให้ รุจน์ คัวเอกของเรื่องเป็นบุตรของหลวงประชารุจิเรข ผู้ที่ก่อกบฏล้มเหลวต้องลี้ภัยการเมืองไปอยู่รัสเซียและถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ส่วนมารดาของเขาเป็นหญิงชาวรัสเซีย ดินแดนแห่งคอมมิวนิสต์ เขาจึงอยู่ในสภาพที่ลำบากในการใช้ชีวิตท่ามกลางคนไทย

ชีวิตของรุจน์พบกับความพลิกผันเสมอ บิดาของเขาที่เขานึกว่าเสียชีวิตแล้วแท้จริงยังมีชีวิตอยู่และมาเสียชีวิตต่อหน้าเขาด้วยกระสุนปริศนา เมื่อเขาเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อสืบหาคนฆ่าบิดา ก็เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายจนเป็นสาเหตุให้รุจน์ต้องเข้าไปมีส่วนในเรื่องของคอมมิวนิสต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาจึงพบความพลิกพันในชีวิตตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ไปสัมผัสบรรยากาศของสงครามเย็นในสมรภูมิรบตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย จนพบความรัก และอคติที่มีต่อเขาที่เป็นที่ครหาว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์นั้น ก็ทำให้เขาต้องติดคุกอีกครั้งในชีวิต

หลังจากนั้น ชีวิตของรุจน์ก็ดำเนินต่อไปด้วยวัยที่สูงขึ้น เขาอยู่ดูความเปลี่ยนแปลงของโลกจนถึงความพ่ายแพ้ของฝ่ายคอมมิวนิสต์ และเผ้าดูชัยชนะของทุนนิยมด้วยความห่วงใย

ผู้เขียนได้เสนอเรื่องราวอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอนและเรียงลำดับเหตุการณ์อย่างไม่สับสน เสนอภาพอย่างชัดเจน โดยใช้ข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละยุคแต่ละสมัยมาผสมผสานกับจินตนาการของผู้เขียน ด้วยลักษณะการบรรยายที่เป็นเหตุเป็นผล สอดคล้องกันอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด ทำให้ผู้อ่านบางคนเชื่อว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่รุจน์ได้ประสบพบเจอนั้นเป็นเหตุการณ์จริงทั้งหมดหรือบางคนถึงขั้นเชื่อว่าตัวละครทุกตัวมีจริง ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว “วินทร์ เลียววาริณ” เพียงแต่สมมติตัวละครทุกตัวขึ้นมาจากพื้นฐานความเป็นจริงเพียงแค่นั้น

กลวิธีการแต่งของผู้เขียนมีความน่าสนใจมากทีเดียว เพราะนวนิยายเรื่องนี้ไม่ได้มาจากจินตนาการล้วนแต่เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์การเมืองในช่วงสงครามเย็น แต่วินทร์ เลียววาริณ ก็นำเสนอเรื่องการเมืองที่ค่อนข้างจะยากในการทำความเข้าใจมานำเสนอในรูปของบันเทิงคดีที่มีสาระและเพลิดเพลินสนุกสนาน การดำเนินเรื่องและการลำดับเรื่องของเขามีเอกลักษณ์โดยเฉพาะในด้านการหักมุม วินทร์มักจะจบเหตุการณ์แต่ละครั้งชนิดที่ผู้อ่านไม่คาดฝันมาก่อน ซึ่งตรงนี้เป็นเหมือนจุดขายของเขาที่ทำให้ผู้อ่านติดใจและติดตามเรื่องราวโดยแทบไม่อยากหยุดพักอ่าน และนี่ก็เป็นเอกลักษณ์ของเขาที่ผู้เขียนคนอื่นเลียนแบบได้ยาก

นวนิยาย “ปีกแดง” เล่มนี้ ไม่แต่เพียงที่จะนำเสนอความบันเทิงให้แก่ผู้อ่านเท่านั้น แต่ยังเสนอสาระและความรู้ทางประวัติศาสตร์ในสมัยหนึ่งให้ผู้อ่านได้เข้าใจ และเพลิดเพลินกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏในเรื่อง คุณค่าของหนังสือเล่มนี้ไม่เพียงตาจะมีรางวัลประกันคุณภาพเท่านั้น ผู้อ่านจะสัมผัสได้ถึงคุณค่าที่ผู้เขียนได้ถ่ายทอดลงไปในทุกตัวอักษรถึงความรู้ที่ได้รับ สะเทือนใจกับตัวละครและเรื่องราวที่เกิดขึ้น เข้าถึงความเพลิดเพลินและสนุกสนานกับเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น และที่สำคัญผู้อ่านจะได้รับแง่คิดที่ผู้เขียนให้ไว้ผ่านตัวละครโดยเฉพาะตัวละครเอก คือ “รุจน์” ว่าบางครั้งคนเราต้องเป็นในสิ่งที่ไม่อยากเป็น แต่ในเมื่อไม่สามารถเลือก (เกิด) ได้ ก็ต้องปรับตัวให้สมารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ และการยอมรับความผันแปรของชีวิตอันเป็นอนิจจัง ยอมรับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมีสติและมีกำลังใจไม่ท้อถอย เฉกเช่นรุจน์ที่ปฏิบัติเช่นนั้นและมีพัฒนาการทางความคิดและวิถีชีวิตตามวัยและประสบการณ์

ทุกวันนี้ชีวิตของคนเรามีความวุ่นวายสับสน การหาเวลาพักผ่อนเป็นเรื่องดี การอ่านหนังสือก็เป็นวิธีการพักผ่อนที่ดีอย่างหนึ่ง หากสละเวลาบางส่วนเพื่ออ่านหนังสือนั้นเป็นการไม่เสียหลาย และสำหรับหนังสือปีกแดดงนี้ จะไม่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเสียเวลาอ่านแม้แต่นิดเดียว

ฤติมา

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ย่อหน้าแรกไม่ชวนติดตาม ย่อหน้า 2,3 ขึ้นต้นซ้ำๆ ตัวสะกดมีผิด ใช้คำซ้ำๆ เอกลักษณ์ ปิดท้ายไม่เร้าใจ ไม่ชวนให้กระหายอยากรู้มากนัก

7

หนุ่มอักษร...นอนตื่นสาย กล่าวว่า...

เคยอกหักจากหนังสือเล่มนี้มาก่อน อาจเป็นเพราะตั้งความหวังมากไปหน่อย (เพราะอะไรไว้คุยหลังไมค์ละกันนะครับ คาดว่าแถวนี้จะมีแฟนคลับวินทร์เยอะ อิอิ)

น่าจะดึงจุดเด่นตรงที่เป็น "นิยายอิงประวัติศาสตร์" ที่ให้ข้อมูลช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างละเอียด (ยิบ)เช่น การบรรยายภาพคุกในรัสเซียอย่างละเอียดลออ หรือข้อมูลทางประวัติศาสตร์อื่นๆ (ยกตอนไหนมาก็ได้ครับ ข้อมูลยุ่บยั่บไปหมด)ตรงนี้น่าจะเป็นจุดแข็งของหนังสือ หากยกมาก็อาจจะทำให้น่าสนใจขึ้นครับ

::วุฒินันท์::