วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

นกสีฟ้า (THE CHILDREN'S BLUE BIRD)


นกสีฟ้า (THE CHILDREN’S BLUE BIRD)
มาดาม โมริซ เมเตอร์ลิงก์ เขียน
น้ำค้าง แปลและเรียบเรียง
พิมพ์ครั้งแรก : 2549
สำนักพิมพ์เรือนปัญญา
252 หน้า ภาพประกอบ
195 บาท




“ไม่มีอะไรเริ่มต้น ไม่มีอะไรสูญสิ้นไป จะมีก็แต่เพียงความเปลี่ยนแปลง เราต่างเป็นนักเดินทาง ความสุขของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับการบรรลุจุดมุ่งหมาย หากแต่เกิดขึ้นได้ตลอดเส้นทาง เมื่อเรารู้จักให้ เราก็จะมีความสุข...” ข้อความตอนหนึ่งจากวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง นกสีฟ้า


เรื่อง THE CHILDREN’S BLUE BIRD หรือฉบับภาษาไทยคือ นกสีฟ้า นี้ ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในรูปแบบของบทละครภาษาฝรั่งเศสชื่อ L’OISEAU BLEU แต่งโดย เคานต์ โมริซ เมเตอร์ลิงก์ ผู้ได้รับฉายาว่าเช็กสเปียร์แห่งเบลเยียม และได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ในปี พ.ศ. 2454 ต่อมา มาดาม โมริซ เมเตอร์ลิงก์ (จอร์เจ็ต เลบลอง) ได้ดัดแปลงบทละครนกสีฟ้าให้เป็นวรรณกรรมสำหรับเด็ก


งานเขียนเล่มนี้มีรูปแบบแฟนตาซี ซึ่งผู้เขียนนำเราไปสู่ดินแดนเหนือจริง มีเวทมนตร์ที่บันดาลให้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบกาย ไม่ว่าจะเป็น แมว หมา ขนมปัง ไฟ น้ำ น้ำนม น้ำตาล กลายร่างเป็นมนุษย์ แม้หมาจะมีลักษณะนิสัยและหน้าตาของหมา แมวจะมีลักษณะนิสัยและหน้าตาของแมว แต่พวกมันโตขึ้น สามารถเดินสองขาและพูดได้ วรรณกรรมเรื่องนี้จึงเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานจากการผจญภัยในดินแดนแห่งจินตนาการของสองตัวละครเด็กผู้กล้าหาญ


ทิลทิลและมิททิลสองพี่น้องอาศัยอยู่ที่กระท่อมเก่าๆ กับพ่อและแม่ “มันดูโกโรโกโสเข้าไปใหญ่เมื่อตั้งอยู่ท่ามกลางคฤหาสน์งามโอ่อ่า ซึ่งมีเด็ก ๆ ผู้ร่ำรวยอาศัยอยู่” แต่เด็กทั้งสองไม่เคยอิจฉาเด็ก ๆ เหล่านั้น แม้ตนจะไม่เคยมีวันฉลองคริสมาสต์เลยก็ตาม และด้วยหัวใจอันเปี่ยมด้วยความรัก ความโอบอ้อมอารีของเด็กทั้งสอง นางฟ้าเบรีลูนผู้ใจดีจึงมอบหมวกใบเล็กประดับเพชรกายสิทธิ์แก่ทิลทิล ซึ่งเพชรกายสิทธิ์มีพลังทำให้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวนั้นมีชีวิตขึ้นมา “ทันทีที่เด็กชายสวมหมวกลงบนหัว มนตราแห่งความเปลี่ยนแปลงก็เข้าครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง” จากนั้นการเดินทางตามหานกสีฟ้าแห่งความสุขจึงเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับความตื่นเต้นและหัวใจอันเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นของเด็กๆ ทิลทิลเที่ยวตามหานกสีฟ้าไปทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทเทพธิดา ดินแดนแห่งความทรงจำ ปราสาทราตรี อาณาจักรแห่งอนาคต วิหารแสงสว่าง สุสาน และในป่า ซึ่งทุกสถานที่ล้วนมีอุปสรรคเพื่อเป็นการทดสอบความกล้าหาญ และความอดทนของทิลทิล


นกสีฟ้า เป็นงานเขียนเชิงสัญลักษณ์ที่ผู้เขียนนำเราไปสู่คำถามและคำตอบของชีวิต โดยไม่รู้ตัวว่าเราได้กลายเป็นนักฝันและนักคิดในเวลาเดียวกัน นกสีฟ้าเป็นตัวแทนแห่งความสุข ในเรื่องจะมีทั้งนกสีฟ้าจริงและนกสีฟ้าปลอม เหมือนกับในชีวิตจริงของคนเราที่มักจะไขว้เขว หลงผิดไปกับวิถีในการแสวงหาความสุขจอมปลอม และยังมีสิ่งแวดล้อมที่คอยบิดเบือนสายตาของเราอยู่มากมาย


จากท่วงทำนองการเขียนที่ได้สร้างบรรยากาศของโลกแห่งความฝันขึ้นพร้อมๆ กับจินตนาการผ่านรูปวาด ประกอบกับคำพูดของตัวละครที่ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยวิธีการอันเรียบง่าย ชัดเจน ทำให้งานเขียนเล่มนี้เรียกได้ว่าเป็น ‘เสียงดนตรีแห่งถ้อยคำ สีสันอันเจิดจ้าห้าวหาญ และความรื่นรมย์อันบริสุทธิ์ของชีวิต’
นอกจากนี้ความงามทางวรรณศิลป์ที่มาพร้อมกับข้อคิดเตือนใจ ทำให้ผู้อ่านซาบซึ้งได้กับทุกๆ ตอนในเรื่อง ดังคำพูดของแสงสว่างตอนหนึ่งว่า “อย่าร้องไห้เลยหนูน้อยที่รัก...เราไม่มีเสียงเหมือนสายน้ำ มีแต่ความสว่างไสวซึ่งมนุษย์ไม่อาจเข้าใจ...แต่เราคอยระวังภัยให้พวกเจ้าเสมอตราบจนวันสุดท้ายของชีวิต... อย่าลืมว่าเรากำลังพูดกับเจ้าอยู่ในแสงจันทร์ที่ส่องฉาย ในแสงกะพริบของดวงดาว ในแสงอรุณรุ่งของทุกวัน ในตะเกียงทุกดวงที่มีคนจุด และในทุกความคิดอันดีงามใสสว่างในจิตใจของพวกเจ้า...”


นกสีฟ้าจะเปิดมุมมองแห่งจินตนาการที่สวยงาม เปิดโลกของความคิดในแง่บวก และจะเป็นคำตอบให้กับทุกคนที่กำลังท้อแท้สิ้นหวัง เรื่องราวมหัศจรรย์ ณ ดินแดนแห่งความฝันจะทำให้เรามองโลกในมุมที่สวยขึ้น เพราะโลกสมมุติที่เกิดจากจินตนาการอันไร้ขอบเขตนั้นไม่มีถูกหรือผิด มีเพียงดินแดนแห่งความทรงจำในจิตใจ ขอเพียงเราได้ค้นหาความสุขเล็ก ๆ ใกล้ตัวให้เจอ เพื่อรับรู้และสัมผัสกับ ‘นกสีฟ้า’ แห่งความสุขได้อย่างแท้จริง ดังคำที่แสงสว่างบอกไว้ว่า “เราอยู่ใกล้ความสุขไปทุกขณะ”


ความสุขภายในเป็นสิ่งที่สามารถพบได้ในทุกอณูแห่งชีวิต เวลาใดที่ตั้งใจจะหาความสุข เมื่อนั้นเราจะไม่พบความสุข แต่เมื่อใดที่เราใช้ชีวิตอย่างตระหนักในความสุข เมื่อนั้นความสุขก็จะอบอวลอยู่รอบกาย มนุษย์เราล้วนใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งสัญลักษณ์ สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรกับ ‘นกสีฟ้า’ ที่พบเห็นตามรายทางของชีวิต หาคำตอบได้ในวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง นกสีฟ้า แล้วคุณจะรู้ว่าความลับของชีวิตที่เปี่ยมด้วยความสุขนั้น อยู่ใกล้แค่เอื้อม...




นิชา

ไม่มีความคิดเห็น: