วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

เข็มทิศชีวิต


เข็มทิศชีวิต
ฐิตินาถ ณ พัทลุง
พิมพ์ครั้งที่ 53 พ.ศ. 2551
สำนักพิมพ์วงกลม
206 หน้า ภาพประกอบ
180 บาท


ปัจจุบันในยุคที่สังคมให้ความสำคัญกับวัตถุนิยม เงินเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิต ดิฉันเชื่อว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องประสบปัญหาและหาทางออกไม่ได้จนในที่สุดต้องฆ่าตัวตาย ทั้งที่ปัญหาเหล่านั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย แต่สำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ต้องแบกรับหนี้เกือบร้อยล้าน อีกทั้งสามีก็ยังด่วนจากไป ทิ้งให้เธอต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังแล้ว เธอฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นมาได้อย่างไร และอะไรคือสิ่งที่ทำให้เธอสามารถลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหาได้ “เข็มทิศชีวิต” เป็นหนังสือที่จะให้คำตอบแก่ทุกๆคนที่ยังหาทางออกให้กับปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ไม่ได้

ฐิตินาถ ณ พัทลุง จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ มีธุรกิจส่วนตัว มีชีวิตที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์เพียบพร้อมอย่างที่หลายๆคนพึงปรารถนา แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของเธอก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ มีหนี้สินท่วมตัว แต่ด้วยการที่เธอสามารถหาเข็มทิศในชีวิตของตนเองเจอ จึงทำให้เธอกลับมามีชีวิตที่เป็นสุขอีกครั้งและยังได้นำเอาประสบการณ์ความทุกข์เหล่านั้นมาจุดประกายความหวังให้แก่ผู้คนที่กำลังจ่อมจมอยู่ในห้วงความทุกข์จากการใช้ชีวิตโดยไม่มีเข็มทิศที่จะนำทางไปสู่ความสุข

เข็มทิศชีวิตนอกจากจะเล่าถึงประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้เผชิญมาแล้ว ยังให้แง่มุมเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอีกมากมาย ผู้เขียนได้เล่าเรื่องราวของตนสลับกับการสอดแทรกแง่คิดและมุมมองใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าประกอบอีกมากมาย อีกทั้งยังใช้สำนวนการเขียนที่ทำให้รู้สึกราวกับว่าผู้เขียนกำลังสนทนาอยู่กับผู้อ่าน เป็นกันเองและเข้าใจได้ง่าย

ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นว่าการที่มนุษย์เราเป็นทุกข์นั้น สาเหตุไม่ได้มาจากสิ่งอื่นใดเลยนอกจากใจของเราเอง มนุษย์เราไม่เคยหยุดทบทวนจิตใจตนเอง ปล่อยใจให้ยืดไปยึดติดกับสิ่งอื่นตลอดเวลา ผู้คนในปัจจุบันมากมายที่ยึดติดกับสิ่งนอกกายและเป็นทุกข์กับสิ่งเหล่านั้นโดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว ใจของเราเองที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ โดยผู้เขียนได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับลิงตัวหนึ่งซึ่งมีคนแกล้งเอากะปิมาป้าย เจ้าลิงเกลียดกะปิที่สุดในชีวิตเมื่อเอามือมาสูดดมแล้วก็ถูมือไปกับสิ่งต่างๆจนเลือดไหลท่วมมือ ก็เหมือนมนุษย์เราเมื่อเวลามีทุกข์ก็มักจะเก็บเอาความทุกข์เหล่านั้นมาทิ่มแทงตัวเองเสมอ หากเราเพียงแค่ปล่อยความทุกข์นั้นไปและไม่เก็บมาคิด เราก็จะไม่ต้องเจ็บปวดกับสิ่งเหล่านั้นอีก

และสิ่งที่ดิฉันประทับใจมากที่สุดคือเรื่องแก้วที่ไม่เคยพอ คนเรามักจะหาสิ่งต่างๆมาเติมเต็มให้ชีวิตเสมอ โดยที่ไม่ได้มองดูว่าตนได้กำหนดขอบเขตความพอเพียงไว้แค่ไหน หากเปรียบความต้องการเป็นเหมือนแก้วหนึ่งใบ เราก็มักจะคิดว่าต้องหาน้ำมาเติมให้เต็ม แต่ความจริงแล้วน้ำในแก้วนั้นจะไม่มีวันเต็มได้เพราะความอยากในใจเราไม่เคยหยุด หากเราจะลองหยุดทบทวนสักนิดแล้วเลือกที่จะปรับขนาดแก้วซึ่งก็คือความอยากในใจของเราให้ลดน้อยลงแล้ว ใจเราก็จะมีความสุขไม่ต้องไขว่คว้าสิ่งอื่นใดมาเติมเต็มอีก อย่างเช่นผู้คนในปัจจุบันที่มักจะยึดติดกับสิ่งนอกกาย เมื่อจะซื้อรถยนต์สักคันก็ต้องเลือกแบบที่โก้หรูเพื่ออวดความมั่งมีของตน แต่เมื่อเห็นคนอื่นมีรถที่โก้หรูกว่า ก็พยายามไขว่คว้ามาเป็นของตนเองบ้าง หากผู้คนเหล่านี้ไม่ยึดติดความสวยงามแล้วหันมาเลือกรถที่ให้ประโยชน์การใช้งานมากที่สุดแล้ว ก็คงจะไม่ต้องทุกข์ใจกับการที่ตนไม่มีรถยนต์โก้หรูเหมือนคนอื่น

นอกจากเรื่องราวสนุกๆเหล่านี้แล้ว ยังมีสาระและแง่คิดอีกมากมายที่คอยให้ผู้อ่านได้เข้าไปสัมผัส ผู้เขียนได้แนะนำทางออกง่ายๆในการแก้ปัญหาซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินความสามารถของเราเลย แต่หลายๆคนกลับมองไม่เห็น โดยเริ่มจากการหยุดทบทวนตนเอง รู้จักที่ธรรมชาติของจิตใจ นำไปสู่การกำหนดเป้าหมายของชีวิตและการปฏิบัติตนเพื่อให้ชีวิตเป็นสุข เรียกได้ว่าเป็นหนังสือ How to ที่กลั่นมาจากประสบการณ์ชีวิต บอกทุกขั้นตอนอย่างละเอียดเลยทีเดียว
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่ “เข็มทิศชีวิต”ผลงานเล่มแรกในชีวิตของผู้หญิงที่ชื่อ ฐิตินาถ ณ พัทลุง เล่มนี้จะไต่อันดับหนังสือขายดีอย่างรวดเร็วและได้ตีพิมพ์ถึง 53 ครั้งภายในเวลาเพียง 4ปีเท่านั้น

สำหรับตัวดิฉันเองแล้ว “เข็มทิศชีวิต” เป็นหนังสือที่ไม่เพียงแต่ให้ความรู้และแง่คิดดีๆเท่านั้น หากแต่ยังทำให้ดิฉันหันกลับมามองตัวเองและหยุดทบทวนการกระทำที่ผ่านมา และได้พบว่าตัวเองให้ความสำคัญกับสิ่งนอกกายมากกว่าจิตใจเสียอีก บางครั้งถึงกับละเลยสิ่งรอบตัว มองไม่เห็นความรัก ความปรารถนาดีจากคนที่หวังดีกับเราอย่างครอบครัวหรือเพื่อนฝูง เพราะได้แต่เอาเวลาไปทุ่มเทกับสิ่งที่จะให้ความสุขเพียงชั่วครู่ชั่วยาม และจมอยู่กับความทุกข์เมื่อไม่ได้สิ่งเหล่านั้นสมดังปรารถนา ต้องขอบคุณ “เข็มทิศชีวิต” ที่เป็นเหมือนแว่นตา ทำให้คนสายตาสั้นไม่เคยมองเห็นสิ่งอื่นใดนอกจากความสุขจอมปลอมอย่างดิฉัน ได้เห็นว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี มีเท่าไรก็ไม่พอ หรือรู้สึกว่าปัญหาที่เผชิญอยู่ดูเหมือนจะไม่มีทางออก ไม่รู้ว่าจะหาความสุขในชีวิตได้ที่ไหนแล้วละก็ “เข็มทิศชีวิต” เป็นหนังสือที่จะให้คำตอบแก่ทุกๆคำถามของคุณด้วยเนื้อหาที่กลั่นมาจากประสบการณ์จริง และลีลาการเขียนที่ทำให้เพลิดเพลินราวกับได้ฟังเรื่องราวจากปากของผู้เขียนเอง สำหรับใครที่ยังหาเข็มทิศในชีวิตของตนไม่เจอ หนังสือเล่มนี้อาจจะเป็นเข็มทิศที่ช่วยชี้คำตอบที่แท้จริงให้แก่ชีวิตคุณก็เป็นได้

ภัทราพร

ไม่มีความคิดเห็น: