วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

เหยียบโลกไว้ ไม่ต้องเครียด


เหยียบโลกไว้ ไม่ต้องเครียด
หนุ่มเมืองจันท์
พิมพ์ครั้งที่ 4
สำนักพิมพ์มติชน
195 หน้า
130 บาท


ดิฉันเชื่อว่าทุกคนคงต้องเคยประสบกับภาวะตึงเครียดทางอารมณ์ ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน หรือแม้แต่เรื่องสังคมการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ดิฉันเชื่อยิ่งกว่าว่าหนังสือเรื่อง เหยียบโลกไว้ ไม่ต้องเครียด ของ หนุ่มเมืองจันท์ จะสามารถเปลี่ยนความเครียดเหล่านั้นให้กลายเป็นรอยยิ้มได้

เหยียบโลกไว้ ไม่ต้องเครียด เป็นหนังสือลำดับที่ 7 ในหนังสือชุด “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” เป็นการรวมเล่มจากคอลัมน์ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” ในหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ ซึ่งแต่ละเล่มจะมีชื่อเรื่องแตกต่างกันออกไป แต่มีจุดเด่นที่เหมือนกันคือเป็นหนังสือที่ให้สาระความรู้เกี่ยวกับแวดวงธุรกิจ กลยุทธ์การตลาดจากเจ้าของธุรกิจต่างๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมกับสอดแทรกเรื่องราวสนุกขบขันเอาไว้ตลอดทั้งเล่ม ทำให้ผู้อ่านนอกจากจะได้รับความรู้แล้ว ยังเกิดรอยยิ้มและเสียงหัวเราะทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาอ่านอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนังสือให้ความรู้เชิงธุรกิจที่ไม่มีความเครียดปรากฏให้เห็นในเนื้อหาเลย แม้แต่คนที่ไม่ใสในเรื่องการทำธุรกิจได้ลองมาอ่านดูสักครั้ง ก็จะต้องติดใจจนวางไม่ลง เพราะติดหนึบในภาษาของหนุ่มเมืองจันท์ ที่ขยันหยอดมุขตลกขำขันแซวคนใกล้ตัวได้อย่างน่ารักน่าชัง “จนมีบางคนให้คำนิยามหนังสือชุดฟาสต์ฟู้ดธุรกิจของ “หนุ่มเมืองจันท์” ว่าเป็นหนังสือประเภทธุรบันเทิง ที่มาจากคำว่า ธุรกิจ + สาระบันเทิง ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในหนังสือชุดฟาสต์ฟู้ดธุรกิจนั่นเอง”

ธุรกิจต่างๆที่เขานำมาเสนอเป็นธุรกิจหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใหญ่โตของเครือโออิชิกรุ๊ป หลักการขายบ้านสร้างเสร็จก่อนขายของแลนด์แอนเฮาส์ นิสชินคัพนู้ดเดิ้ล ผู้บุกเบิกบะหมี่ถ้วยรายแรกของโลก ที่มาของตู้แช่ที่มี 2 ประตู คือด้านหน้าและด้านหลังของเซเว่นอีเลฟเว่น ไปจนถึงธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านขายข้าวขาหมูที่ไม่มีแม้แต่ชื่อร้าน แต่กลับมีลูกค้าแน่นขนัดทุกวัน และลูกค้าก็พร้อมใจกันเรียกว่า “ขาหมูแม่จ๋า” เพราะเป็นคำพูดติดปากของลูกชายตัวโตหนวดเฟิ้ม ที่ตะโกนบอกแม่เมื่อมีลูกค้าสั่งอาหาร ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาอดอมยิ้มไม่ได้กับรูปร่าง และคำพูดที่ดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หรือร้านขายผัดไทยที่มีวิธีการถามนำเรื่องการใส่ไข่กับลูกค้าว่า “ใส่ไข่ฟองเดียว หรือสองฟอง” แทนที่จะถามว่า “ใส่ไข่รึเปล่า” ทำให้ผัดไทยของเขาแทบทุกจานจะต้องใส่ไข่ ซึ่งเป็นการสร้างกำไรให้แก่เขามากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจต่างๆที่มีวิธีการขาย และวิธีการนำเสนอสินค้าที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่หนุ่มเมืองจันท์ นำมาเสนอไว้เป็นตอนๆ ทำให้สามารถอ่านได้ง่าย และในแต่ละตอนก็จะมีข้อคิดแฝงเอาไว้ตลอด เหมาะสมอย่างยิ่งแก่ผู้ที่สนใจทำธุรกิจ หรือกำลังหาแนวทางในการสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ธุรกิจของตน

นอกจากนี้ หนุ่มเมืองจันท์ ยังเป็นนักเขียนที่เข้าใจดีว่า “ปัญหา” เป็นเรื่องปกติของชีวิตที่ทุกคนต้องมี ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม แม้แต่ตัวเขาเองก็มีปัญหาเป็นของตัวเอง คือ มีโรคประจำตัวเป็นโรคเก๊าต์ และโรคภูมิแพ้ แต่เขาไม่เคยมองว่าเป็นปัญหาในชีวิตเลย แต่เขากลับพยายามทำความเข้าใจ จนในที่สุด “ปัญหา” ก็กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิต ด้วยแนวคิดนี้เองจึงกลายเป็นที่มาของชื่อหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อไปยังผู้อ่านว่า “แม้ปัญหาจะทำให้เกิดความเครียดจนรู้สึกเหมือนแบกโลกหนักๆเอาไว้ ทั้งที่ในความจริงตามธรรมชาติแล้วโลกต่างหากที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเรา โลกมีไว้เหยียบ ไม่ได้มีไว้แบก” และปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออก ถ้าเราเห็นว่าเป็นเรื่องปกติของชีวิต

เมื่อดิฉันได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ก็พบว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อชิ้นส่วนของโลกที่แบกเอาไว้บนบ่าค่อยๆหลุดออกไปทีละชิ้นทุกครั้งที่พลิกหน้ากระดาษผ่านไปแต่ละบท และหลุดออกไปจนหมดเมื่อหน้าสุดท้ายถูกพลิกผ่านไป พร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า และความสบายตัวที่เกิดขึ้นอย่างบอกไม่ถูก หากใครอยากจะรู้ว่าความรู้สึกแบบนี้เป็นเช่นไร ก็คงจะต้องลองหาหนังสือเรื่อง “เหยียบโลกไว้ ไม่ต้องเครียด” มาอ่านดูกันเอาเอง แล้วท่านจะพบว่า “ปัญหา” เป็นแค่ความท้าทายของชีวิตเท่านั้นเอง

ลักษมณ

ไม่มีความคิดเห็น: