วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ยังไงก็รัก


นางสาวพิมพิศ คำพา

05490271


เรื่องย่อ: ย้ง เซลล์แมนที่มีอนาคตไม่ไกลนัก แต่งงานอยู่กินกับเง็กซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทพ่อมา อยู่มานาน๗ ปีย้งเริ่มเบื่อเง็กและแอบนอกใจเง็กไปมีสัมพันธ์กับพิมพ์เพื่อนร่วมงาน พิมพ์รักย้งและต้องการที่จะมีครอบครัวที่มีความสุขทั้งๆที่รู้ว่าย้งมีภรรยาแล้ว พิมพ์มีผู้ชายที่เพียบพร้อมมาขอแต่งงานโดยให้เวลาพิมพ์ตัดสินใจ ๗ วัน พิมพ์ได้บอกเรื่องนี้กับย้งแล้วยื่นคำขาดว่าภายใน ๗ วันย้งต้องเลือกว่าจะเลิกกับเง็กหรือจะเลิกกับตน ย้งกลุ้มใจมากและคิดที่จะเลิกกับเง็กแต่ติดตรงที่ย้งเคยให้สัญญากับพ่อของตนว่าจะไม่มีวันเลิกกับเง็กเป็นอันขาด ย้งได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเล้ง เล้งจึงได้หาวิธีที่จะทำให้เง็กเป็นฝ่ายขอเลิกกับย้งไปเอง โดยเล้งได้ปลอมตัวเป็นซินแสไปทำนายดวงของย้งกับเง็กว่าดวงของเง็กไม่สมพงษ์กับย้ง หากยังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันต่อไปเล้งจะต้องมีอันเป็นไป ด้วยความที่เง็กเป็นคนเชื่อเรื่องดวงมาก เง็กจึงเกิดความกลัดกลุ้ม ใกล้ครบกำหนด ๗ วัน พิมพ์ได้ยื่นข้อเสนอให้ย้งอีกครั้งนั่นคือการหนีไปด้วยกัน แต่ด้วยความพยายามของเง็กที่เป็นห่วงย้ง ทำทุกอย่างเพื่อแก้เคล็ดให้ย้ง ย้งจึงเริ่มรู้สึกตัวและกลับมาหาเง็กเหมือนเดิม

บทวิจารณ์: ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนว Romantic-Comedy ซึ่งหากมองโดยรวมจะถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนออย่างตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย ดูแล้วจะมีอารมณ์ตลก เศร้า และซึ้งผสมกันไป สิ่งที่สำคัญที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ความต้องการที่จะนำเสนอเรื่องราวความรักของสามีภรรยา ที่ถึงแม้จะมีอุปสรรคต่างๆเข้ามา ด้วยความรักความห่วงใยจึงทำให้ทุกอย่างกลับมามีความสุขได้
ในด้านการดำเนินเรื่องภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดฉากขึ้นมาด้วยพิธีแต่งงานแบบชาวจีนซึ่งเต็มไปด้วยความสุขโดยย้งตัวละครเอกมีท่าทางที่มีความสุขที่ได้แต่งงานกับเง็ก ผู้คนต่างเข้ามาอวยพรให้คู่บ่าวสาวรักกันให้นานๆ จากนั้นจึงตัดเข้าสู่การใช้ชีวิตหลังแต่งงานของทั้งคู่ที่นำเสนอให้เห็นความเบื่อหน่ายของย้งที่มีต่อเง็ก แต่กลับมีความสุขกับหญิงอีกคนหนึ่งแทน การเปิดเรื่องแบบนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างถึงความสัมพันธ์ของคน ๒ คนก่อนแต่งงานและหลังแต่งงาน โดยที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งใจจะนำเสนอว่าการแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิตคู่ แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
จะสังเกตได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีการเน้นย้ำถึงระยะเวลาที่เง็กและย้งได้ใช้ชีวิตร่วมกันมา ๗ ปี แต่ย้งกลับจะใช้เวลาเพียงแค่ ๗ วันในการที่จะขอเลิกกับเง็ก ซึ่งเป็น


การสร้างความแตกต่างให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการทำลายความสัมพันธ์ของคนสองคนใช้เวลาเพียงไม่นาน แต่ก่อนหน้านั้นจะต้องใช้เวลาอย่างมากมายเพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์นั้นขึ้นมา นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ภาพยนตร์ต้องการจะสื่อให้ผู้ชมได้เห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ และรู้จักที่จะถนอมความสัมพันธ์ของตนเองไว้ให้ดี
อีกส่วนหนึ่งคือความสนุกสนานที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้มุขตลกที่สอดแทรกไว้ในภาพยนตร์จะไม่ใช่การหัวเราะน้ำตาไหล แต่จะได้สัมผัสกับการอมยิ้มไปกับความน่ารักของตัวละครแต่ละตัวแทน ถึงแม้ว่าบางครั้งมุขตลกเหล่านั้นจะดูพยายามมากเกินไป แต่หากชมแบบไม่คิดอะไรก็จะรู้สึกได้ว่าความตลกนั้นมาจาก

ลักษณะเฉพาะของตัวละครเหล่านั้นนั่นเอง

ด้านของฉาก ฉากจะมีอยู่ไม่มากนัก หลักๆคือ บ้านของย้งและเง็ก คอนโดของพิมพ์ ซึ่งความสำคัญของฉากจะอยู่ที่การสร้างบรรยากาศของเรื่องและอารมณ์ของย้ง ซึ่งบ้านที่อาศัยร่วมกับเง็กจะเป็นบรรยากาศของความน่าเบื่อซ้ำซากจำเจ ต่างจากคอนโดของพิมพ์ที่จะมีบรรยากาศแห่งความแปลกใหม่และความสุขที่ย้งได้รับ แต่ในตอนท้ายของเรื่องบ้านของย้งและเง็กกลับมามีบรรยากาศแห่งความสุขเหมือนสมัยที่ทั้งคู่แต่งงานด้วยกันใหม่ๆอีกครั้ง ทั่งหมดนี้จะเห็นได้ว่าฉากมีความสำคัญต่อการดำเนินเรื่องด้วยเช่นกัน

องค์ประกอบที่โดนเด่นที่สุดในเรื่องนี้คือ ความสัมพันธ์ของตัวละครทุกตัว โดยเฉพาะลักษณะตัวละครของเง็กที่ถึงแม้ภายนอกจะจู้จี้ขี้บ่น แต่ภายใต้ความจู้จี้ขี้บ่นนั้นล้วนเกิดจากความรักและความห่วงใยที่มีให้ย้งทั้งสิ้นถึงแม้ในตอนแรกเง็กจะแต่งงานกับย้งเพราะพ่อบังคับ แต่เมื่ออยู่ด้วยกันเง็กก็ดูแลเอาใจใส่ย้งเป็นอย่างดีจึงเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะถอนได้ สุดท้ายแล้วความดีของเง็กก็ทำให้ย้งได้ตาสว่างอีกครั้งนึง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้คติในการใช้ชีวิตคู่ว่าไม่ควรที่จะละเลยความสัมพันธ์ บางครั้งเราก็มองข้ามความรักและความห่วงใยของคนรักเรา การนอกใจมีแต่จะสร้างความเจ็บปวดให้กันและกัน เราจึงควรเอาใจใส่ซึ่งกันและกันให้เหมือนกับตอนที่เราได้ตัดสินใจจะใช้ชีวิตร่วมกับคนๆนั้นแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: