วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551

ลมฝนกับต้นกล้า


ลมฝนกับต้นกล้า
ยงยุทธ ชูแว่น
สำนักพิมพ์นาคร
160 หน้า ภาพประกอบ
ราคา 65 บาท

ลมฝนกับต้นกล้า เป็นวรรณกรรมเยาวชนร่วมสมัย ผลงานนักคิดนักเขียน “ยงยุทธ ชูแว่น” ขณะนี้ท่านเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และยังเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่นโดยเฉพาะภาคใต้เป็นอย่างยิ่ง

ลมฝนกับต้นกล้า สัญลักษณ์แห่งวิถีชีวิตสามัญจากท้องทุ่ง เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ดำรงชีวิตอยู่ในชนบทด้วยความหวัง ความศรัทธาในธรรมชาติ และวิถีชีวิตของบรรพบุรุษ กล่าวได้ว่า ธรรมชาติมีบทบาทเกี่ยวเนื่องอยู่กับศักดิ์ศรีและการต่อสู้ทางความคิดของชาวบ้านในสังคมชนบท ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัฒน์ ที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกๆด้าน ทำให้เกิดการผสมผสานวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึกนึกคิดที่จะกัดกร่อนวัฒนธรรมดั้งเดิมของสังคมไทยโดยท้องถิ่นและส่วนรวม

วรรณกรรรมเล่มนี้ นับได้ว่าเป็นหนังสือมหาเสน่ห์โดยไม่ต้องใช้น้ำมันพราย เพราะไม่ว่าใครได้หยิบ ได้เปิดอ่านแม้เพียงหน้าแรกแล้ว แทบทุกคนเหมือนโดนต้องมนต์จนแทบจะวางหนังสือไม่ลง ด้วยท่วงทำนองการเขียนที่น่าสนใจ ยงยุทธ ชูแว่น ใช้ทักษะภาษาที่กะทัดรัด ชัดเจน แต่ลึกซึ้งกินใจ โดยเฉพาะการถ่ายทอดอารมณ์สิ่งแวดล้อมในแต่ละฉาก ทำให้ดิฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่เข้าไปยืนในฉากนั้นและมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ด้วย
นอกจากนี้ ผู้แต่งยังสามารถผสมผสานเนื้อเรื่องระหว่างเหตุการณ์ปัจจุบัน ความเชื่อ และจินตนาการได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ บุคลิกนิสัย ตลอดจนคำพูดคำจาและข้อมูลของบรรดาตัวละครต่างๆ ล้วนเป็นสามัญชนที่พบเห็นได้ตามชนบท ดังนั้นเรื่องนี้จึงเปรียบเสมือนกระจกเงาบานใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมของชนบท ซึ่งวิถีชีวิตทางสังคมเหล่านี้กำลังจะถูกทำให้เปลี่ยนไปโดยกระแสโลกาภิวัฒน์

ผลงานของยงยุทธ ชูแว่น ชิ้นนี้จึงตอบสนองอัตลักษณ์ตัวตนของชนบทได้ดี เสนอแนวคิดไว้อย่างน่าสนใจว่า บุคคลที่เกิดมายืนบนแผ่นดินไทยพึงมีชีวิตที่มั่นคง สันติ และสืบทอดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนได้ในชุมชนบ้านเกิดของตนเอง ไม่ต้องทิ้งถิ่นฐานร่อนเร่ไปเผชิญโชคในเมืองใหญ่ และในต่างประเทศอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต ณ วันนี้ สังคมไทยเป็นสังคมที่ประกอบด้วยชุมชนที่มีอำนาจปกครองตนเอง เป็นสังคมที่มีเสรีภาพในการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดความรู้ ความคิดระหว่างสมาชิกในสังคม ที่สำคัญที่สุดคือ การเป็นสังคมที่สมาชิกทุกคนมีความรู้ความสามารถ เราจึงสามารถหยัดยืนอยู่ได้ในฤดูกาลแห่งท้องทุ่ง

หากคุณเป็นคนที่หมดหวังไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไร คุณควรอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะลมฝนกับต้นกล้าจะทำให้คุณได้รู้ว่า การมีชีวิตอยู่ คือการมีทรัพย์ที่ประเสริฐที่สุด เพราะนั่นหมายถึงการที่คุณได้มีโอกาสที่จะรับรู้ โอกาสที่จะสัมผัสและกระทำการต่างๆ แต่น่าแปลก ที่คนเรามักไม่ได้คำนึงถึงว่า การได้มีโอกาสมีชีวิตเป็นสิ่งมีค่าขนาดไหน กว่าจะเข้าใจก็ตอนใกล้จะสูญเสียมันไปแล้ว คนเราเข้าใจถึงคุณค่าของการมีชีวิตแตกต่างกันไป ทำให้ใช้ชีวิตให้เกิดความคุ้มค่าไม่เท่ากัน
คำว่า “วรรณกรรมเยาวชน” มิได้ให้ความหมายเพียงแค่เป็นววรณกรรมที่สร้างขึ้นสำหรับเยาวชน นัยว่าเพื่อพัฒนาการอ่าน พัฒนาความรู้ ความคิดและหล่อหลอมให้พวกเขามีจิตใจและคุณธรรมที่ผู้ใหญ่ในสังคมพึงประสงค์เท่านั้น หากแต่วรรณกรรมเยาวชนเรื่องลมฝนกับต้นกล้า ยังมุ่งเสนอและสะท้อนความคิดอ่าน พฤติกรรม ตลอดถึงความใฝ่ฝันของเยาวชน โดยผ่านทัศนะความเชื่อและมุมมองของยงยุทธ ชูแว่น

ลมฝนกับต้นกล้าจึงเป็นหนังสือที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย หากคุณกำลังมองหาหนังสือที่มีสิ่งดีๆให้คุณมากกว่าความสนุกและความบันเทิง ลมฝนกับต้นกล้า จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้คุณมองเห็นมุมต่างๆในโลกกลมๆใบนี้ มากกว่าที่คุณเคยรู้ ที่คุณเคยเห็นแน่นอน

ชยานุตม์

ไม่มีความคิดเห็น: