วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

Me myself ขอให้รักจงเจริญ


นางสาวซีรีน ไหมหมาด

รหัสนักศึกษา 05490114


บทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง Me myself ขอให้รักจงเจริญ

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของอุ้ม หญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งถูกแฟนทิ้งโดยไม่รู้สาเหตุ เธออาศัยอยู่ในห้องพักกับหลานชายที่อายุยังไม่ถึงสิบขวบ วันหนึ่งเธอได้ขับรถชนชายคนหนึ่งเข้าอย่างจัง เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาพบว่าเขากลายเป็นคนความจำเสื่อมและไม่มีที่ไป ด้วยความรู้สึกผิดเธอจึงจำใจพาชายแปลกหน้าคนนั้นมาพักด้วยที่ห้อง และตั้งชื่อให้ตามจี้ที่ติดตัวเขาอยู่เป็นอักษรภาษาอังกฤษว่า “แทน” ระหว่างที่อยู่ด้วยกันมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย จากคนแปลกหน้าที่ไม่น่าไว้ใจ กลายเป็นผู้ที่นำความอบอุ่นกลับมาสู่หัวใจอุ้ม สายสัมพันธ์บางๆระหว่างคนทั้งสองได้เริ่มก่อตัวขึ้น กลายเป็นความรัก ความผูกพัน แทนได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเธอ คอยเป็นกำลังใจและสร้างรอยยิ้มให้เธอได้เสมอ อีกทั้งยังทำให้เธอสามารถใช้ชีวิตร่วมกับหลานชายได้ลงตัวมากขึ้น


ในขณะเดียวกันชีวิตที่ว่างเปล่า ปราศจากความทรงจำใดๆของแทน ก็ค่อยๆถูกเติมเต็มโดยหญิงสาวที่มีท่าทางแข็งๆคนนี้ ในที่สุดทั้งคู่ก็รักกัน ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีจนทำให้แทนแทบไม่อยากจะกลับไปจดจำเรื่องราวชีวิตในอดีตของตัวเองอีกต่อไป แต่ทั้งคู่ก็ต้องตกใจกับความจริงที่ปรากฎว่า แทนเคยเป็นกระเทยและมีอาชีพเป็นนางโชว์ แทนจึงตัดสินใจกลับไปเป็นนางโชว์เหมือนเดิม ส่วนอุ้มก็ใช้ชีวิตตามทางของเธอต่อไป แต่สุดท้ายทั้งสองก็ไม่อาจหนีหัวใจของตัวเองได้ และตัดสินใจกลับมารักกันในท้ายที่สุด

ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดเรื่องด้วยภาพของกระเทยคนหนึ่งที่มีอาชีพเป็นนางโชว์กำลังแสดงอยู่ ซึ่งเมื่อดูไปเรื่อยๆผู้ชมจะทราบได้ว่า ภาพเหล่านั้นคือภาพความทรงจำในอดีตที่หายไปของตัวละครเอกฝ่ายชายนั่นเอง



ความขัดแย้งในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ความขัดแย้งภายในใจของมนุษย์เอง นั่นก็คือความขัดแย้งภายในใจของแทนเมื่อได้ทราบความจริง และต้องตัดสินใจว่าจะเลือกมีชีวิตแบบไหน ระหว่างกลับไปเป็นนางโชว์เหมือนเดิม หรือจะมีชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารัก

ตัวละครสำคัญในเรื่องมีสองตัว คืออุ้มครีเอทีฟสาวที่ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในตัวเองและแทนชายความจำเสื่อมที่ไม่มีที่ไป ซึ่งแทนถือเป็นตัวละครที่มีบทบาทมากที่สุดในเรื่อง เพราะเป็นตัวละครที่ทำให้เกิดปม ความขัดแย้งขึ้น

เนื่องจากตัวละครฝ่ายหญิงมีอาชีพเป็นครีเอทีฟ บรรยากาศในเรื่องส่วนใหญ่จึงอยู่ในสถานที่ทำงาน และสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะการใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ของคนในสังคมเมืองยุคปัจจุบัน สถานที่ทีมีบทบาทกับชีวิตประจำวันมักได้แก่ ที่ทำงาน ห้องพัก และห้างสรรพสินค้า

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นถึงอานุภาพของความรัก หากคนสองคนมีความรักเป็นพื้นฐานแลแะมั่นคงในความรักต่อกันแล้ว แม้ว่าจะเจออุปสรรคใดๆก็ย่อมสามารถผ่านพ้นมันไปได้
ซึ่งสอดคล้องกับการตั้งชื่อเรื่อง “Me myself ขอให้รักจงเจริญ”

นอกจากเรื่องราวความรักอันโรแมนติกของคนทั้งสองที่ทำให้อดยิ้มไม่ได้แล้ว สิ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกอย่างหนึ่งคือ ข้อคิดที่ได้จากแทนตัวละครเอกฝ่ายชาย ที่เคยเป็นกระเทยและสูญเสียความทรงจำไป เลือกที่จะมีชีวิตใหม่โดยไม่สนใจอดีตและคนรอบข้าง แสดงให้เห็นว่าคนเรามีสิทธิที่จะเลือก และกำหนดชีวิตของตนเองได้ว่าจะป็นอย่างไร โดยไม่ยึดติดกับสิ่งที่เป็นอดีต หรือให้ความสำคัญกับสังคมมากเกินไป แต่เราต้องรู้จักเลือกสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเราในปัจจุบันมีความสุขที่สุดโดยไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

ไม่มีความคิดเห็น: