วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

SHINE โชคดีที่สวรรค์ ไม่ลำเอียง

ชยานุตม์


เรื่อง Shine เป็นภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยอ้างอิงจากชีวิตจริงของศิลปินท่านหนึ่ง ในเรื่องได้กล่าวถึงเด็กชายเดวิดที่มีความสามารถในการเล่นเปียโน พ่อของเขากำหนดชะตาชีวิตให้สำเร็จรูปอย่างเคร่งครัดและรัดรึงเพราะต้องการทดแทนความฝันด้านดนตรีของตนเองที่ขาดหายไปในวัยเด็กทำให้เดวิดกลายเป็นคนไม่มีความคิดเป็นของตนเองและไม่กล้าที่จะตัดสินใจเรื่องใดๆ เดวิดจึงกลายเป็นคนขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ความกดดันจากพ่อที่พยายามฝังความคิดของเขาตลอดเวลาว่าต้องชนะเท่านั้น เมื่อผลคือความพ่ายแพ้พ่อก็จะแสดงออกถึงความเครียดและความผิดหวังเป็นอย่างมาก สุดท้ายความกดดันทำให้เขากลายเป็นผู้ป่วยทางจิต แต่ถึงแม้ว่าชีวิตของเขาจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร พรสวรรค์ก็ยังคงเป็นพรสวรรค์เสมอ การเล่นเปียโนก็ยังคงอยู่ในจิตวิญญาณของเขา


ภาพยนตร์เรื่องนี้ดึงเอาอารมณ์และเหตุการณ์ออกมาในแต่ละช่วงได้อย่างน่าประทับใจ เนื้อหาของเรื่องยังสะท้อนให้เห็นความเป็นจริงของชีวิตผ่านสัญลักษณ์ภาษาภาพยนตร์ ดังที่ปรากฏในหลายๆฉาก เช่น ฉากที่จับกล้องไปที่ก๊อกน้ำที่ถูกบิดเกลียวแน่นเกินไปทำให้น้ำเอ่อไหลออกมานอกก๊อก สื่อให้เห็นว่าคนเราควรดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความพอดี ไม่ตึงและไม่หย่อนจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดผลเสีย ฉากที่เดวิดอุจจาระในอ่างอาบน้ำแสดงให้เห็นว่า เขาเริ่มมีอาการผิดปกติทางจิต แต่พ่อของเดวิดไม่เคยใช้จิตใจในการบำบัดรักษา แต่กลับใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาทุกครั้งไป เนื่องจากนิสัยของพ่อที่ใช้ความคิดตนเองเป็นที่ตั้ง และไม่เคยรับฟังความคิดจากผู้อื่น จนสุดท้ายมันกลายเป็นความรักที่ทำลายชีวิตของลูกเขาเอง สังเกตได้จากแว่นตาของพ่อที่แตกแล้วแต่ก็ไม่ยอมเปลี่ยน แสดงให้เห็นว่า พ่อเป็นคนหัวโบราณที่ยึดติดอยู่กับความคิดเดิมๆ ยังมีเหตุการณ์ที่เรื่อง Shine ได้แสดงสัญลักษณ์แทนคำบรรยาย นั่นคือ ถุงมือที่คุณนายนักเขียนให้เดวิดไปใช้ที่ลอนดอน เมื่อเขาต้องการจะฝึกฝนเปียโน เขาได้ตัดนิ้วทั้งห้าออก เพื่อสะดวกในการเล่น นั่นก็เป็นอีกนัยยะหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า เดวิดยอมสละสิ่งที่เขารักเพื่อแลกกับสิ่งที่เขาต้องการในอนาคต เหมือนที่เขายอมตัดออกมาจากครอบครัว เพื่อตามล่าฝันในการเป็นศิลปินเปียโนที่ยิ่งใหญ่


นักแสดงในเรื่องหลายตัวมีความน่าสนใจ ตัวละครถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสีหน้า ท่าทางได้อย่างชัดเจนและลึกซึ้งแล้ว การวางตัวละครในเรื่องเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามมากขึ้น นอกจากตัวละครที่สำคัญคือ เดวิดและพ่อแล้ว แม่ก็เป็นอีกตัวละครหนึ่งที่มีส่วนทำให้เดวิดกลายเป็นคนเก็บกด เพราะถึงแม้แม่จะรู้ผิดชอบชั่วดีอย่างไร แต่แม่ไม่เคยโต้เถียงหรือแสดงความคิดเห็นใดๆต่อพ่อเลย ส่งผลให้พ่อบงการชีวิตของเดวิดได้ตามอำเภอใจตัว ตัวละครอีกตัวที่สำคัญ คือ ภรรยาของเดวิด เพราะเขาทำให้เดวิดกลับมามีชีวิตสดใสอีกครั้งจากการดูแลและบำบัดโรคของเขาด้วยจิตใจและความรักที่สร้างสรรค์


ภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงเป็นภาพยนตร์คุณภาพอีกเรื่องหนึ่งที่ดิฉันอยากจะแนะนำสำหรับใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวดราม่า นอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดจินตนาการความคิดของผู้กำกับที่ต้องการจะให้คนดูรับรู้แล้ว ยังเปรียบเสมือนกระจกบานเล็กๆที่สะท้อนสภาวะสังคมปัจจุบัน จากมุมหนึ่งของสื่อภาพยนตร์เพื่อให้เกิดคติเตือนใจและแนวทางในการดำเนินชีวิต
แล้วคุณจะได้อะไรจากภาพยนตร์เรื่องนี้มากกว่าความบันเทิง

ไม่มีความคิดเห็น: