วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Shine

ชณัฎฎา

ภาพยนตร์เรื่องShine เป็นภาพยนตร์จากประเทศออสเตรเลีย ความยาวประมาณ 105 นาทีเป็นผลงานการกำกับของ Scott Hicks ชาวออสเตรเลีย นำแสดงโดย Geoffrey Rush นักแสดงชาวอังกฤษ เข้าฉายเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี1996 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลAcademy Award ประจำปี 1997 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมโดยGeoffrey Rush และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ตัดต่อภาพยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม


Shine เป็นเรื่องราวของ David Helfgott นักเปียโนอัจฉริยะชาวออสเตรเลีย – ยิว และถูกปีเตอร์ผู้เป็นบิดาพยายามเคี่ยวเข็ญอย่างหนักให้ฝึกซ้อมเปียโนโดยไม่คำนึงถึงความสามารถของลูก เดวิดฝึกฝนอย่างหนักและเข้าแข่งขันในรายการต่างๆ เขาได้รับรางวัลชนะเลิศและได้ทุนไปศึกษาต่อที่สถาบันสอนดนตรีชื่อดัง ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ถูกพ่อคัดค้าน เขาไม่ได้ไปศึกษาต่อและขณะเดียวกันนั้น เดวิดได้พบกับแคทเธอรีน พลิชาร์ด นักเขียนชื่อดัง เดวิดไปบ้านและเล่นเปียโนให้เธอฟังบ่อยๆ เขารู้สึกสบายใจเมื่ออยู่บ้านเธอและเริ่มเข้มแข็งขึ้น เมื่อมีจดหมายเชิญมาอีกครั้ง เดวิดตัดสินใจไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษท่ามกลางการคัดค้านของพ่อ เขาถูกตัดพ่อตัดลูกกับปีเตอร์ และกลับมาที่บ้านไม่ได้อีกต่อไป เดวิดได้รับการฝึกสอนจากอาจารย์ชื่อดัง “เซซิล พาร์ค” จนทำให้เขาสามารถบรรเลงบทเพลงที่ได้ชื่อว่ายากที่สุด “ เปียโน คอนเชอร์โต ราช หมายเลข 3 ของโรมานินอฟ” ซึ่งเป็นบทเพลงที่พ่อบังคับให้เขาเล่นให้ได้ในอดีต เดวิดฝึกซ้อมอย่างหนักจนได้รับรางวัลชนะเลิศในงานประกวดของวิทยาลัย แต่หลังจากที่เขาบรรเลงเพลงจบ เขาก็ล้มลงหมดสติอยู่บนเวที เดวิดต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชเป็นเวลานาน หลังออกจากโรงพยาบาลเขาได้ไปพักอาศัยอยู่กับ เบริล อัลค็อตแต่เธอก็ทนพฤติกรรมของเดวิดไม่ได้ เดวิดต้องมาพักอยู่กับเพื่อนคนหนึ่งแต่เขาก็ไม่ได้เล่นเปียโนเพราะถูกเจ้าของอพาร์ตเมนต์ล็อคไว้ เขาเดินออกตามหาเปียโนจนมาพบกับเปียโนที่ร้านอาหาร “โมบาย” และเล่นเปียโนที่ร้านจนกลับมามีชื่อเสียง ต่อมาไม่นานเดวิดได้พบกับกิลเลี่ยนนักดูดวงจากซิดนีย์และแต่งงานกัน ด้วยความรักความเข้าใจจากกิลเลี่ยนและครอบครัว ทำให้เดวิดกลับมาเล่นเปียโนอีกครั้งและสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังได้ในคอนเสิร์ตของเขาเอง


ภาพยนตร์เรื่อง Shine เปิดฉากด้วยชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง มีลักษณะท่าทางแปลกๆ กำลังวิ่งอยู่กลางถนนท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย และไปหยุดยืนที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง สายตาของเขาจับจ้องไปที่เปียโน เขาพูดคนเดียว “เดวิดจะดีดเปียโน” และภาพก็เริ่มย้อนกลับไปในวัยเด็กและเริ่มเล่าเรื่องมาเรื่อยๆจากอดีตถึงปัจจุบัน เหตุการณ์เริ่มพัฒนาเมื่อเดวิดชนะเลิศการแข่งขันและได้รับทุนให้ไปศึกษาต่อแต่พ่อของเขาไม่อนุญาต ทำให้ผู้ชมต้องขบคิดถึงบางสิ่งที่อัดแน่นอยู่ภายในใจของพ่อเขาที่ได้รับมาตั้งแต่อดีตจนพ่อต้องมาลงกับตัวเดวิด เหตุการณ์ในเรื่องยังคงดำเนินต่อไปโดยให้เดวิดได้พบกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ คนใหม่ๆอย่างเช่นนักเขียนชื่อดังที่กลายเป็นที่พักพิงทางใจของเขาและทำให้เดวิดเข้มแข็งขึ้น และกล้าที่จะไม่เชื่อฟังพ่อ เดวิดตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษท่ามกลางการคัดค้านของพ่อและนี่เป็นจุดวิกฤติที่ทำให้พ่อลูกต้องแตกหักกัน เดวิดต้องไปใช้ชีวิตแต่เพียงลำพังที่ต่างประเทศและต้องอยู่ในสภาวะเครียดหลายอย่าง คือ การสูญเสียที่พักพิงทางใจอย่างแคทเธอรีนและการไม่ตอบจดหมายกลับมาของพ่อ แต่เดวิดยังคงมุ่งมั่นและขยันฝึกซ้อมเปียโนอย่างหนักเพื่อเข้าแข่งขันในการประกวดของมหาวิทยาลัย จนทำให้มาถึงจุดไคลแม็กซ์ นั่นคือ เมื่อเดวิดแสดงจบ เขาล้มลงหมดสติอยู่บนเวที และเดวิดเริ่มมีอาการทางจิตทำให้ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชเป็นเวลานาน หมอสั่งห้ามไม่ให้เขาเล่นเปียโนอีก เรื่องราวเริ่มคลี่คลายลงเมื่อเดวิดได้มาพบกับกิลเลี่ยนและแต่งงานกับเธอ ด้วยความรักความเข้าใของกิลเลี่ยนทำให้อาการของเดวิดดีขึ้นจึงนำมาสู่การปิดเรื่องที่เดวิดมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง เขาเล่นเปียโนต่อหน้าแม่และน้องสาวของเขาในคอนเสิร์ต เดวิดสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้และกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง


ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ กล่าวคือ เป็นความขัดแย้งทางความคิดระหว่างเดวิดกับปีเตอร์ผู้เป็นบิดา เดวิดอยากจะไปศึกษาต่อทางด้านดนตรีเพื่อหาประสบการณ์และพัฒนาความสามารถของเขาให้มากยิ่งๆขึ้นไปแต่พ่อกลับไม่เห็นด้วย เขาไม่อยากให้ลูกไปไกลจากครอบครัวและจะแสดงอาการเกรี้ยวกราดทุกครั้งที่เดวิดไม่เชื่อฟัง ปีเตอร์ไม่รับฟังความคิดเห็นของลูก จะว่ากล่าวด้วยวาจาที่รุนแรง บางครั้งมีการใช้กำลังทุบตีด้วย จนทำให้เกิดเดวิดเกิดอาการต่อต้านและขัดแย้งกับพ่ออย่างรุนแรง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ของพ่อสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตในวัยเด็กที่ปีเตอร์ไม่ได้รับการตอบสนองความสนใจทางด้านดนตรีจากพ่อ จนต้องมาลงกับลูก


Shine แปลว่า ส่องแสง สว่าง หรือว่าสุกใส ซึ่งน่าจะหมายถึงชีวิตของเดวิดที่เขาประสบความสำเร็จจนถึงขีดสุดแต่ตกลงมา กลายเป็นคนไม่ปกติและไร้ค่าในสายตาคนรอบข้าง แต่เมื่อเดวิดได้รับความรักความเข้าใจจากภรรยาและครอบครัว เดวิดหวนกลับมาเล่นเปียโนเริ่มมีชื่อเสียง ชีวิตของเขาประสบความสำเร็จและพบกับความสว่างไสวอีกครั้ง


ภาพยนตร์ Shine สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อพ่อของเดวิดไม่ได้รับการตอบสนองทางด้านดนตรีจากพ่อจึงทำให้เขามาทุ่มเทและส่งเสริมเดวิดอย่างเต็มที่เพื่อทดแทนความต้องการในวัยเด็กของตัวเอง จนทำให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตของลูกมากจนเกินไป จัดการให้ลูกทุกอย่าง จนทำให้เดวิดเกิดความสับสนและขาดความเชื่อมั่นในตนเอง สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบของครอบครัวเป็นแบบใดย่อมส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็ก ความรักแบบเผด็จการและไม่มีเหตุผลเป็นความรักที่ไม่ดีเพราะจะทำให้เด็กรู้สึกกดดัน และเมื่อความกดดันนั้นมากขึ้นเรื่อยๆจนรับไม่ได้ก็จะทำให้เด็กเกิดความผิดปกติขึ้นทางจิตใจและกลายเป็นคนที่มีพฤติกรรมแปลกแยก นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นอาการของผู้ที่มีอาการป่วยทางจิต คือ จะมีลักษณะแปลกๆ พูดกับตัวเองคนเดียว เนื้อหาการพูดจับใจความไม่ได้ ความคิดรวดเร็วไม่ปะติดปะต่อ แสดงพฤติกรรมที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น ถอดเสื้อผ้า และหมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งก็คือ เปียโน จนทำให้การดูแลและสนใจตัวเองลดลง นอกจากนี้ยังเสนอวิธีการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตด้วยไฟฟ้า แต่เหนือสิ่งอื่นใดความรักและความเข้าใจอย่างแท้จริงจากคนรอบข้างจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นและกลับมาอยู่ร่วมกับคนปกติได้เช่นกัน


ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การสื่อสารทางด้านดนตรีที่ดีกว่าภาษาเพราะจะทำให้ผู้ฟังเข้าใจถึงอารมณ์และความรู้สึกแท้จริงที่อยู่ภายในจิตใจของบุคคลนั้นๆ และยังสอนให้รู้ว่าความรักที่ทำลายล้างไม่ใช่ความรักที่แท้จริง แต่ความรักที่สร้างสรรค์ต่างหากที่จะเป็นพลังให้แก่มนุษย์ในการลุกขึ้นมายืนหยัดและสว่างไสวอีกครั้ง


Shine จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีที่มีความไพเราะอย่างที่สุด และทำให้คุณรู้สึกชื่นชมในความสามารถการเล่นเปียโนของเขา รับรู้ถึงพรสวรรค์อันล้ำเลิศ ทำให้บุคคลที่สิ้นหวังหรือท้อแท้ในชีวิตได้กลับมาต่อสู้อีกครั้งเฉกเช่นเดวิด เฮลฟ์ก็อทท์ผู้ที่แม้จะไม่ปกติแต่ก็สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุขท่ามกลางความรักความเข้าใจอันอบอุ่นของครอบครัวและบุคคลรอบข้าง Shineจะทำให้คุณกลับมามีความหวังครั้งใหม่ในชีวิตและเห็นถึงคุณค่าแห่งรัก...

ไม่มีความคิดเห็น: