วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

แสงสว่างเล็กๆ

ทรัพย์อนันต์

หากพูดถึงภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับผู้ป่วยโรคจิตแล้วหลายท่านคงนึกถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคจิตในทางลบ เพราะมักมีภาพยนตร์หลายเรื่องที่นำเสนอด้านลบของผู้ป่วยโรคจิต จนทำให้ “ผู้ป่วยโรคจิต” กลาเป็นคนที่น่ากลัว และไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติได้ แต่ก็มีภาพยนตร์ไม่น้อยที่นำเสนอชีวิตด้านบวกของผู้ป่วยโรคจิต

“shine” สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1996 กำกับภาพยนตร์โดย Scott Hicks บทภาพยนตร์โดย Scott Hicks และ Jan Sardi

ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยภาพของชายคนหนึ่งที่พูดคนเดียว และพูดเร็วจนจับใจความไม่ได้ จากนั้นภาพก็ตัดไปที่ภาพชายสูงวัยคนหนึ่งเดินสูบบุหรี่กลางสายฝน แล้วไปหยุดอยู่หน้าร้านอาหาร จ้องมองเข้าไปในนั้น “เปียโน” ที่อยู่ในร้านคือ สิ่งที่เขามองโดยไม่ละสายตา

หลังจากนั้นก็ได้เล่าย้อนกลับไปในชีวิตวัยเด็กของชายสูงวัย “เดวิด เฮลก๊อต” เด็กชายที่เล่นเปียโนเป็นชีวิตจิตใจ โดยมีปีเตอร์ บิดาของเขาที่เป็นทั้งพ่อ ทั้งครูสอนเปียโน และยิ่งกว่านั้นเขาเป็นผู้คุมจิตวิญญาณของเดวิด

ปีเตอร์พยายามยัดเยียดให้เดวิดเล่นเปียโนตั้งแต่เด็ก เคี่ยวเข็ญให้เดวิดฝึกซ้อมเปียโนอย่างหนัก เพื่อที่จะทดแทนความต้องการในชีวิตวัยเยาว์ของเขา จนเดวิดนั้นประสบความสำเร็จจากการประกวดมากมาย เวทีแล้วเวทีเล่าจนเดวิดได้รับทุนไปเรียนที่สถาบันสอนดนตรีชื่อดังที่สหรัฐอเมริกา แต่เดวิดก็ถูกพ่อขัดขวางความ จึงทำให้ความหวังที่จะได้เรียนต่อนั้นพังทลายลง หลังจากนั้นเขาก็เริ่มมีอาการทางจิตเล็กน้อย

หลังจากนั้นไม่นานนักเขาก็ได้พบกับนักเขียนชื่อดัง แคทเธอรีน พลิชาร์ต เดวิดได้ไปเล่นเปียนโนให้เธอฟังบ่อยๆ แคทเธอรีน กลายเป็นที่พึ่งทางใจของเดวิดในช่วงนั้น จนวันหนึ่งเดวิดได้รับทุนให้ไปเรียนที่อังกฤษ เช่นเคยเขาถูกพ่อคัดค้าน แต่ครั้งนี้เขาเลือกที่จะเดินตามเสียงหัวใจ โดยไม่สนใจว่าเขาจะได้กลับมาที่บ้านอีกหรือไม่

ระหว่างที่เดวิดอยู่ที่อังกฤษเขาได้ตั้งใจฝึกซ้อมดนตรีอย่างหนัก อีกทั้งยังมีความเครียดเรื่องที่พ่อไม่ตอบจดหมายของเขาแม้แต่ฉบับเดียว ในขณะเดียวกัน แคทเธอรีน ก็ได้เสียชีวิตลงซึ่งทำให้เขารูสึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะเล่นเพลง “เปียโนคอนเชอร์โต ราช หมายเลข 3 ของ โรมานินอฟ” เพลงที่ถือว่ามีความยากที่สุด เพื่อใช้ในการประกวดของวิทยาลัย ซึ่งเพลงนี้พ่อเขาเคยบังคับให้เล่นเมื่อสมัยเขาเด็กๆ

เดวิดเล่นเพลงนี้จนชนะการประกวด และหลังจากที่เขาบรรเลงเพลงจบลงเขาก็หมดสติล้มลงกลางเวที หลังจากนั้นเดวิดก็เข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลผู้ป่วยทางจิต หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาเขาก็มีอาการพูดเร็ว คิดเรื่องราวไม่ประติดประต่อ จมปลักอยู่กับความหลังว่าเรื่องราวแย่ๆที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะการกระทำของเขาเอง ดังนั้นเดวิดจึงถูกสั่งห้ามให้เล่นเปียโน เพื่อลดความตึงเครียดภายในจิตใจ

หลังจากที่เขาออกจากโรงพยาบาลเขาก็ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนแห่งหนึ่ง เขาเล่นเปียโนจนเจ้าของห้องรำคาญจนเจ้าของห้องต้องล็อคเปียโนนั้นไว้ จนในที่สุดเดวิดตัดสินใจเดินออกไปท่ามกลางสายฝนและไปยืนจ้องอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งและได้ไปเล่นเปียโนที่ร้านอาหารนั่น จนทำให้เขากลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง

วันหนึ่งเดวิดได้พบกับกับพ่อของเขาอีกครั้ง เพื่อที่จะมารับเดวิดกลับบ้าน แต่เขากลับพบว่าลูกชายของตนมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เดิมที่เขาเคยขีดเส้นทางให้เดวิดเดิน เขาจึงตัดสินใจทิ้งเดวิดไว้แล้วเดินจากไปเพียงลำพัง

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้พบกับกิลเลี่ยน นักดูดวงชาวซิดนีย์ เธอประทับใจในความร่าเริง ความน่ารัก ความสามารถทางดนตรีของเดวิด จนทำให้เธอตัดสินใจแต่งงานกับเดวิด เธอคอยดูแลเอาใจใส่เดวิดด้วยความรักและความห่วงใยจนทำให้เดวิดสามารถกลับมาเล่นเปียโนได้อีกครั้ง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า วันที่เดวิดประสบความสำเร็นั้น พ่อของเขาไม่มีโอกาสได้อยู่ชื่นชมความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นั้น


“shine” หากเห็นคำนี้แล้วก็ชวนให้นึกถึงความสุข ความสว่างสดใส ชื่อเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้มีความเหมาะสมกับเนื้อหาของเรื่องเป็นอย่างมาก เพราะ เป็นการตั้งชื่อเรื่องที่ขัดแย้งกับเนื้อเรื่อง ทำให้ผู้ชมอาจพอจะเดาได้ว่าชีวิตของตัวละครเอกนั้นไม่ได้ “shine” เลยแม้แต่น้อย และในขณะเดียวกันก็พอจะเดาได้ว่าในตอนท้ายของเรื่องนั้นอาจจะมีเรื่องดีๆที่ทำให้ชีวิตของตัวละครเกิดแสงสว่างหรือความสุข

ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยภาพของชายที่พูดเร็วจนจับใจความไม่ได้ เป็นการแนะผู้ชมอย่างคร่าวๆว่าตัวละครเอกของเรื่องนั้นมีบุคลิกภาพ ลักษณะอย่างไร ซึ่งเป็นการดึงความสงสัยของผู้ชมได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทำให้ผู้ชมต้องติดตามเรื่องราวไปตลอด

ตัวละครเอกของเรื่องนำแสดงโดยเจฟฟี่ รัช ซึ่งถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จน ไม่ว่าจะอารมณ์เศร้า เหงา รัก ทำให้ผู้ชมตกอยู่ในมายาอันสมบูรณ์ เชื่อว่าเขาเป็นโรคจิตจริงๆโดยปราศจากข้อสงสัย

ความขัดแย้งของภาพยนตร์เรื่องนี้จัดเป็นความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ก็คือความขัดแย้งระหว่างเดวิดกับพ่อ ซึ่งทำให้เรื่องดำเนินไปได้โดยตลอด

ฉากในเรื่องนี้ใช้แสงค่อนข้างน้อย เน้นไปในช่วงเวลากลางคืนเป็นสำคัญ ซึ่งถือว่ามีความเหมาะสมกับเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความสะเทือนอารมณ์ได้ง่ายอีกด้วย

ภาพยนตร์เรื่อง “shine” มีการทิ้งจุดสงสัย และนัยไว้หลายตอน เช่น ตอนที่ปีเตอร์พ่อของเดวิดออกมานั่งดูภาพของเดวิดตอนได้รับรางวัลที่โซฟา และก่อนที่เขาจะล้มตัวลงนอนที่โซฟาเขาได้เอาผ้าห่มปิดทับลงบนโวฟาที่ขาดวิ่น นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาพยายามจะปกปิดแผลเก่าที่มีในใจของเขาเองด้วยการพยายามเคี่ยวเข็ญของให้เล่นเปียโนแทนเขาในตอนเด็ก

ภาพที่เดวิดผิดหวังเรื่องไปเรียนต่อที่อเมริกาแล้วเครียดจนอุจจาระในอ่างน้ำ จนทำให้พ่อโกรธและทำร้ายร่างกายเขา จากนั้นภาพก็ตัดไปที่ก๊อกน้ำที่ปิดแต่ยังมีหยดน้ำไหลอยู่ นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเดวิดนั้นไม่สามารถควบคุมตนเองได้แล้ว

ภาพที่พ่อชอบเดินเอามือประสานกันที่หน้าขา และภาพที่แว่นตาของพ่อแตกแต่ไม่ยอมเปลี่ยน นั่นก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าพ่อเป็นคนที่ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ มักปิดกั้นตนเองจากความคิดของคนอื่น อีกทั้งยังไม่ยอมเปลี่ยนทัศนคติอีกด้วย

ภาพที่เดวิดวางแว่นตาไว้บนเปียโนเมื่อตอนที่เขาประกวดเล่นเปียโนที่วิทยาลัย และเมื่อเขาเล่นจบเขาก็เอื้อมมือจะไปจับแว่นตา แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากเขาหมดสติไปเสียก่อนและหลังจากนั้นเดวิดก็ป่วยเป็นโรคจิต ภาพยนตร์ตั้งใจจะทิ้งภาพนี้ไว้เพื่อให้สัมพันธ์กับตอนจบของเรื่องคือ ตอนที่เดวิดสามารถกลับมาเล่นเปียโนได้อีกครั้ง และเมื่อเล่นจบเขาก็สามารถจะหยิบแว่นตาที่วางไว้บนเปียโนให้กลับมาสวมได้ นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่า เดวิดสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมแล้ว ไม่ต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดในอดีตอีกแล้ว

นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการนำเสนอคือ “น้ำ” จะเห็นได้ว่าภาพยนตร์เปิดเรื่องขึ้นมาพร้อมกับสายฝน และเดวิดเองก็ชอบเล่นน้ำ เช่น ฉากที่ไปเล่นน้ำที่ทะเล นอกจากนี้ยังมีฉากที่เดวิดสูบบุหรี่กลางสายฝน ที่จุดอย่างไรก็ไม่มีทางติด

น้ำในที่นี้ก็หมายถึง “พ่อ” ของเดวิดที่ช่วยให้เขาได้เล่นเปียโน จนมีชื่อเสียง เปรียบได้กับตอนที่เดวิดเล่นน้ำทะเล หรือเล่นน้ำที่สระในบ้านแล้วมีความสะบายใจ แต่ในขณะเดียวกันนั้นพ่อเขาก็เป็นคนที่ทำลยชีวิตของเดวิดเช่นกัน เปรียบเสมือนได้กับตอนที่เดวิดสูบบุหรี่กลางสายฝน ซึ่งฝนได้ทำให้เปลวไฟของบุหรี่ดับลง

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังต้องการกำลังใจ ภาพยนตร์เรื่อง “shine” จะเป็นหนึ่งกำลังใจเล็กๆแต่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำให้คุณมีแรงที่จะก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้า และศรัทธาในปาฏิหารย์แห่งความรัก แล้วสักวันแสงสว่างจะเป็นของคุณ

5 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชื่อเก๋..นะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชื่อใครเก๋หว่า ชื่อคนเขียน หรือว่า ชื่อเรื่อง ฮ่าๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เหนเค้าเม้นท์ก้อเลยมาช่วยสร้างกระแสให้ 55+

ทั่นประธาน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาฝากข้อความนะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

บทวิจารณ์นี้ เล่าเรื่องย่อยาวเกินไป กล่าวถึงการเปิดเรื่องซ้ำ ย่อหน้าเกริ่นนำไม่น่าจะใช้คำว่า ผู้ป่วยโรคจิต เพราะไม่ชวนให้อ่านต่อ การตีความว่า น้ำ คือ พ่อ ไม่น่าจะโยงไปได้ น้ำเป็นทางออกให้เดวิดผ่อนคลายมากกว่า ลองกลับไปชมภาพยนตร์อีกครั้งนะคะ